เสียงพูดในห้องประชุมคือปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของการสื่อสารอย่างไม่อาจมองข้าม แม้ว่าหลายองค์กรจะลงทุนกับอุปกรณ์ภาพหรือจอแสดงผลล้ำสมัย แต่กลับละเลยอุปกรณ์พื้นฐานอย่างไมค์ประชุม (https://fuzion.co.th/th/wireless-conference-mic/) ซึ่งหากเลือกไม่เหมาะกับลักษณะห้องหรือรูปแบบการประชุม อาจทำให้เสียงขาดหาย ไม่คมชัด และบั่นทอนคุณภาพของการตัดสินใจที่เกิดขึ้นในการประชุมโดยตรง
รูปแบบโต๊ะประชุมมีผลต่อการเลือกไมโครโฟนมากกว่าที่คิด
หนึ่งในจุดที่หลายคนมองข้ามคือ "รูปทรงและการจัดวางโต๊ะประชุม" ซึ่งส่งผลอย่างมากต่อการกระจายเสียง การใช้โต๊ะยาวแบบคลาสสิกกับไมโครโฟนตั้งโต๊ะอาจเพียงพอสำหรับกลุ่มเล็ก แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นโต๊ะรูปตัว U หรือวงกลม การเลือกไมโครโฟนแบบ array หรือ boundary mic ที่วางได้แนบชิดกับพื้นโต๊ะจะช่วยรับเสียงได้ดีกว่า ป้องกันเสียงก้องและลดระยะทางระหว่างผู้พูดกับไมค์ จึงควรวิเคราะห์ลักษณะของห้องประชุมและพฤติกรรมการนั่งประชุมก่อนเลือกใช้อุปกรณ์ทุกครั้ง
การใช้งานร่วมกับระบบประชุมออนไลน์ต้องการมาตรฐานเสียงที่แม่นยำ
การประชุมที่เชื่อมต่อระหว่างห้องจริงกับผู้เข้าร่วมทางไกล ไม่ว่าจะผ่าน Zoom, Teams หรือระบบ VDO Conference อื่นๆ ต้องการไมโครโฟนที่ให้คุณภาพเสียงสม่ำเสมอ ไม่มีเสียงหายหรือ delay ไมค์ที่ดีควรมีระบบ noise cancellation และ echo suppression เพื่อให้เสียงพูดของผู้เข้าร่วมทุกคนถูกรับไปยังปลายทางอย่างคมชัด โดยเฉพาะหากใช้ไมค์รวมหลายตัวต่อเข้าระบบกลาง จำเป็นต้องมีระบบ DSP (Digital Signal Processing) เพื่อจัดการคุณภาพเสียงในแบบ real-time ไม่เช่นนั้นเสียงรบกวนหรือเสียงสะท้อนอาจทำให้ปลายทางเข้าใจผิดหรือขาดข้อมูลสำคัญ
การเลือกไมค์แบบไร้สายไม่ได้แปลว่าเหมาะกับทุกสถานการณ์
แม้ไมโครโฟนไร้สายจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในองค์กรยุคใหม่เพราะความคล่องตัวและภาพลักษณ์ที่ดูทันสมัย แต่ก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดเสมอไป หากห้องประชุมมีผนังหนาหรือมีอุปกรณ์ไร้สายจำนวนมากอยู่แล้ว เช่น Wi-Fi, Bluetooth, หรืออุปกรณ์ควบคุมแบบ IoT ก็อาจเกิดสัญญาณรบกวนได้ง่าย และยังต้องพิจารณาเรื่องแบตเตอรี่ ความจุของช่องสัญญาณ และจำนวนไมค์ที่ใช้งานพร้อมกันเพื่อไม่ให้เกิดการชนความถี่ การเลือกใช้ไมโครโฟนแบบมีสายในบางสถานการณ์จึงยังเป็นตัวเลือกที่มั่นคงและน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะเมื่อความเสถียรของเสียงเป็นเรื่องที่ห้ามพลาด
(https://i.postimg.cc/vH91PVfG/8.jpg)