ประกันชั้น 3 ดีไหม ใครต้องทำประกันนี้?
ยุคนี้อะไรประหยัดได้ก็ต้องประหยัด ยิ่งค่าใช้จ่ายเรื่องรถยนต์ที่มาพร้อมกับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกมากมาย แต่จะให้ไม่มีประกันเลยก็คงไม่สบายใจ จะซื้อประกันชั้น 1 ราคาแพงก็อาจไม่ตอบโจทย์สำหรับคนที่มีรถยนต์เก่า ไม่ค่อยได้ใช้งาน หรือคนที่ต้องการความคุ้มครองที่จำเป็นในราคาที่จับต้องได้ ประกันรถยนต์ชั้น 3 จึงกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนใช้รถ แต่คำถามคือประกันชั้น 3 ดีจริงไหม และเหมาะกับใครบ้าง (https://www.heygoody.com/th/autoinsurance/class3plus-3/)? วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบกัน
ประกันรถยนต์ชั้น 3 เหมาะกับใครบ้าง?
ประกันรถยนต์ชั้น 3 เป็นประกันที่มุ่งเน้นความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับคู่กรณีเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน หรือชีวิตและร่างกาย ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการความอุ่นใจในระดับหนึ่ง โดยจ่ายเบี้ยประกันในราคาที่ถูกลงกว่าประกันชั้นอื่น ๆ ประกันประเภทนี้จึงเหมาะกับคนที่มีพฤติกรรมการใช้รถที่เฉพาะเจาะจง ดังนี้
รถเก่า หรือรถที่มีอายุมากกว่า 10 ปี
รถเก่าที่มีอายุมากกว่า 10 ปีขึ้นไป มักมีราคาประเมินที่ต่ำกว่ารถใหม่ และมีความเสี่ยงที่จะถูกโจรกรรมน้อยกว่า ทำให้การทำประกันชั้น 1 ที่ครอบคลุมความเสียหายจากการถูกโจรกรรมอาจไม่คุ้มค่าเท่าที่ควร การเลือกทำประกันชั้น 3 จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า เพราะช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังคงให้ความคุ้มครองความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับคู่กรณีได้อย่างครอบคลุม
รถที่ไม่ค่อยได้นำมาใช้
สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ขับรถ หรือใช้รถยนต์เป็นครั้งคราว โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุหรือเฉี่ยวชนก็ย่อมน้อยกว่าคนที่ใช้รถเป็นประจำ การทำประกันชั้น 3 ที่เน้นการคุ้มครองคู่กรณีจึงเพียงพอต่อความต้องการและช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ประกันชั้น 3 ยังเหมาะกับผู้ที่มีประสบการณ์ขับขี่สูง และมั่นใจในทักษะของตัวเองอีกด้วย
ทางเลือกประกันชั้น 3+ สำหรับคนที่ต้องการการคุ้มครองเพิ่มขึ้น
แม้ว่าประกันชั้น 3 จะคุ้มครองเฉพาะคู่กรณีเป็นหลัก แต่สำหรับคนที่ต้องการความคุ้มครองเพิ่มเติมสำหรับรถของตัวเองด้วย แต่ยังอยากได้เบี้ยประกันที่ราคาประหยัด ประกันชั้น 3+ คืออีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ ประกันประเภทนี้จะเพิ่มความคุ้มครองในส่วนของรถยนต์ผู้เอาประกันในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถชนรถ โดยมีคู่กรณีเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ต้องรู้คือ ประกัน 3+ ไม่คุ้มครอง ในกรณีที่รถหาย, ไฟไหม้, น้ำท่วม, หรืออุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี เช่น การขับรถชนเสา หรือชนฟุตบาท ดังนั้นก่อนตัดสินใจควรพิจารณาพฤติกรรมการใช้รถและความต้องการของตัวเองให้ดี เพื่อเลือกประกันที่คุ้มค่าและเหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ