แม้การบริหารจัดการโลจิสติกส์จะมีหลายองค์ประกอบ แต่หนึ่งในหัวใจสำคัญที่กำหนดความเร็ว ความแม่นยำ และต้นทุนของทั้งระบบคือความสามารถในการจัดการสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อธุรกิจขยายตัวอย่างรวดเร็ว การวางโครงสร้างระบบคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพ (https://www.dits.co.th/news/what-is-wms)จึงไม่ใช่เรื่องของเทคโนโลยีล้ำหน้าเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเข้าใจถึงพฤติกรรมสินค้า การจัดเก็บที่ยืดหยุ่น และการทำงานร่วมกับระบบอื่นในสายซัพพลายเชนอย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่คลังสมัยใหม่กำลังพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง
คลังสินค้าแบบ Cross-Docking ช่วยตัดขั้นตอน เพิ่มความเร็ว
Cross-Docking คือแนวทางจัดการคลังที่ไม่เน้นการเก็บรักษาสินค้าในระยะยาว แต่เน้นการรับ-กระจายออกทันที ช่วยลดภาระในการจัดเก็บและย่นระยะเวลาการขนส่งลงได้อย่างชัดเจน ระบบนี้มักใช้กับสินค้าที่มีอัตราการหมุนเวียนสูง เช่น อาหารสด สินค้าโปรโมชัน หรือสินค้าที่ถูกสั่งซื้อล่วงหน้าไว้แล้ว สิ่งที่ทำให้ระบบนี้น่าสนใจคือการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยวิเคราะห์ล่วงหน้าและประสานข้อมูลกับฝั่งจัดส่งแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถลดต้นทุนการจัดเก็บ ลดโอกาสสินค้าชำรุดจากการขนย้ายหลายรอบ และยังช่วยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าในแง่ความรวดเร็วในการรับสินค้า
โซนจัดเก็บแบบ Heat Mapping ลดระยะเวลาค้นหาสินค้า
การจัดวางสินค้าภายในคลังโดยอิงจากการวิเคราะห์พฤติกรรมเคลื่อนไหวของสินค้าเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้ชัดเจน การใช้ Heat Map ภายในระบบสามารถแสดงให้เห็นว่าสินค้าใดเคลื่อนไหวบ่อยที่สุด เพื่อจะได้นำมาจัดวางในจุดที่เข้าถึงง่าย และลดระยะเวลาการเดินของพนักงาน ระบบนี้ไม่เพียงแค่ช่วยให้การทำงานลื่นไหลขึ้น แต่ยังลดความเหนื่อยล้าของแรงงาน เพิ่มความปลอดภัย และช่วยให้จัดการสินค้าจำนวนมากได้โดยไม่ต้องเพิ่มทรัพยากรคน ในธุรกิจที่ต้องจัดการกับ SKU หลักพันหลักหมื่น การใช้เทคโนโลยี Heat Mapping เป็นตัวช่วยคือความได้เปรียบที่ยากจะละเลย
(https://i.postimg.cc/NftY2CTW/4.jpg)