• Welcome to กระดานข่าว อบต.เขาโร.
 
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Calla Lily

#1

อยากเปิดคลินิกทันตกรรมเป็นของตัวเอง อย่าลืมวางแผนวิธีการจัดทำ บัญชีคลินิกทันตกรรม ให้ดีก่อนเปิดกิจการ ซึ่งวันนี้ นรินทร์ทอง ได้นำวิธีการวางแผนทำบัญชีคลินิกทันตกรรม มาแชร์ให้ทุกคนในบทความนี้!
อยากเปิดคลินิกทันตกรรม หาที่ปรึกษาด้าน บัญชี แนะนำ นรินทร์ทองคลิกอ่านที่นี่

การวางแผนทำ บัญชีคลินิกทันตกรรม


1. กำหนดผังบัญชี (Chart of Accounts) - ด้วยการจัดหมวดหมู่รายรับ-รายจ่ายให้ชัดเจน เพื่อให้ง่ายต่อการบันทึกและตรวจสอบ ซึ่งผังบัญชีที่ควรมีสำหรับคลินิกทันตกรรม ได้แก่
  • ต้นทุนสินค้าและบริการ (Cost of Goods Sold - COGS)
  • ค่าใช้จ่าย (Expenses)
  • รายได้ (Revenue)
2.  บันทึกรายรับ-รายจ่าย อย่างสม่ำเสมอ  - คือการบันทึกข้อมูลอย่างครบถ้วนและสม่ำเสมอ เพื่อให้ข้อมูลมีความถูกต้องและเป็นปัจจุบัน
  • บันทึกรายรับ
  • บันทึกรายจ่าย
  • การจัดการสต็อก
3. จัดทำรายงานทางการเงิน  - เพื่อใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจทางธุรกิจ
  • งบกำไรขาดทุน (Income Statement)
  • งบกระแสเงินสด (Cash Flow Statement)
4. การจัดการภาษี  - คลินิกทันตกรรมต้องมีการจัดการภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
  • ภาษีเงินได้
  • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
ทำความเข้าใจรายละเอียด การวางแผนทำ บัญชีคลินิกทันตกรรมเพิ่มเติมคลิก

โครงสร้างธุรกิจบัญชีคลินิกทันตกรรม


1. ต้นทุนของบัญชีคลินิกทันตกรรม - คือ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการให้บริการรักษาแต่ละเคส ซึ่งเป็นต้นทุนที่ผันแปรตามจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับบริการ ตัวอย่างเช่น
  • ค่าวัสดุและอุปกรณ์ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโดยตรง
  • ค่าใช้จ่ายทางห้องปฏิบัติการ (Dental Lab)
  • ค่าคอมมิชชั่นทันตแพทย์
2. ค่าใช้จ่ายบัญชีคลินิกทันตกรรม - คือค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการรักษา แต่จำเป็นต่อการเปิดให้บริการ ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
  • ค่าใช้จ่ายคงที่
  • ค่าใช้จ่ายผันแปร


3. รายได้ของบัญชีคลินิกทันตกรรม - มาจากการให้บริการและขายสินค้า ซึ่งควรมีการแยกประเภทรายได้ให้ชัดเจน เพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์
  • รายได้ค่ารักษาทางทันตกรรม
  • รายได้จากการขายสินค้า
  • รายได้อื่นๆ

การเก็บเอกสาร
1.  หมวด "ข้อมูลกิจการ" ซึ่งประกอบไปด้วย
  • หนังสือรับรองการจดทะเบียน และเอกสารการจดทะเบียนบริษัท
  • งบการเงินของปีก่อน
  • ภ.ง.ด.50 / ภ.ง.ด.51 ของปีก่อน
  • ภ.พ.01 , ภ.พ.09 , ภ.พ.20
  • สัญญาต่างๆ

2. หมวด "เอกสารขาย" ซึ่งประกอบไปด้วย
  • ใบสำคัญรับเงิน Receipt Voucher
  • สำเนาใบเสร็จรับเงิน
  • สำเนาใบแจ้งหนี้ / ใบส่งของ / ใบกำกับภาษีขาย
  • สำเนาใบลดหนี้ขาย กรณีราคาผิด คืนสินค้า
  • หลักฐานการรับชำระเงิน สำเนาเช็ครับ สลิปการโอน
  • ธุรกิจบริการ สำเนาหนังสือหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)
  • อื่นๆ เช่น ใบสั่งซื้อ (ถ้ามี)
3. หมวด "เอกสารซื้อ" ซึ่งประกอบไปด้วย
  • ใบสำคัญจ่าย ต้องมีลายเซ็นผู้รับเงิน
  • ใบแจ้งหนี้ / ใบส่งของ / สำเนาใบกำกับภาษี
  • ต้นฉบับใบเสร็จรับเงิน
  • หลักฐานการจ่ายเงิน สลิปโอนเงิน สำเนาเช็ค
  • หนังสือรับรองภาษีหัก ณ ที่จ่าย (50ทวิ)
  • สำเนาบัตรประชาชน (กรณีจ้างบุคคล)
  • ใบรับเงินหรือใบแทนใบเสร็จรับเงิน (กรณีผู้ขายไม่ออกใบเสร็จรับเงิน)
  • อื่นๆ เช่น ใบสั่งซื้อ หนังสือจัดจ้าง (ถ้ามี)
4. หมวด "ภาษีขาย" ซึ่งประกอบไปด้วย
  • สำเนาใบกำกับภาษีขาย
  • รายงานภาษีขาย
5. หมวด "ภาษีซื้อ" ซึ่งประกอบด้วย


  • ต้นฉบับใบกำกับภาษีซื้อ

  • รายงานภาษีซื้อ
6. หมวด "ภาษีถูกหัก ณ ที่จ่าย" เมื่อมีผู้เข้ารับบริการในคลินิกโดยใช้สิทธิ์ประกันสังคม ทางคลินิกจะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 1% ประกันสังคมจะจ่ายค่าบริการให้แก่คลินิก พร้อมให้ต้นฉบับกับสำเนาหนังสือภาษีหัก ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) ซึ่งประกอบไปด้วย
  • ต้นฉบับเก็บแฟ้มภาษีหัก ณ ที่จ่าย
  • สำเนาชุดใบสำคัญรับชำระหนี้
7. หมวด "งานภาษี (Tax File)" ซึ่งประกอบไปด้วย
  • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย เช่น ภ.ง.ด.1 ภ.ง.ด.3 ภ.ง.ด.53
  • สำหรับคลินิกทันตกรรมที่จดทะเบียน VAT ต้องเก็บ ภ.พ.30
  • รายงานภาษีซื้อและรายงานภาษีขาย ภ.ง.ด.50 และ ภ.ง.ด.51 ของปีปัจจุบัน
  • ประกันสังคมและกองทุนทดแทนต่างๆ
8. หมวด "เงินเดือนและประกันสังคม" ซึ่งประกอบไปด้วย
  • แบบยื่นภาษี ภ.ง.ด.1
  • แบบนำส่งเงินสมทบประกันสังคม (สปส.1-10)
  • ตารางสรุปการจ่ายเงินเดือน


9. หมวด "ทะเบียนสินทรัพย์" สินทรัพย์จะต้องมีอายุการใช้งานเกิน 1 ปี และมีมูลค่าขั้นต่ำ 1,000 บาทขึ้นไป หรือตามนโยบายของคลินิก ซึ่งประกอบไปด้วย
  • เอกสารการซื้อ ใบเสร็จรับเงิน หรือใบกำกับภาษี
  • ทะเบียนทรัพย์สิน

อ่านตัวอย่างเคส การบันทึกบัญชีคลินิกทันตกรรมเพิ่มเติมคลิก

จัดทำ บัญชีคลินิกทันตกรรม อย่างมืออาชีพ ป้องกันปัญหาภาษีในอนาคต เลือก นรินทร์ทอง!

อันที่จริงแล้วการจัดทำ บัญชีคลินิกทันตกรรม ไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด หากคุณเริ่มต้นจากการวางแผนและบันทึกข้อมูลอย่างเป็นระบบ จะช่วยให้คุณบริหารคลินิกได้อย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพในระยะยาว ขอแนะนำ นรินทร์ทอง เป็นที่ปรึกษาด้านการทำบัญชี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339
#2

หากใครที่มีแนวโน้มอยากปิดบริษัท หรือต้องการเลิกทำกิจการ แต่ไม่รู้ว่าต้องเริ่มต้นจากขั้นตอนไหน? แล้วการ จดเลิกบริษัท ราคา เท่าไหร่? มาเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันได้ในบทความนี้ กับ นรินทร์ทอง
จดเลิกบริษัท ราคา เท่าไหร่? ปรึกษาเราได้ที่ นรินทร์ทองคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่

จดเลิกบริษัท ราคา เท่าไหร่?


  • กรณีบริษัทไม่มี VAT - ค่าบริการจดทะเบียนเลิกบริษัทและเสร็จการชำระบัญชี อาจอยู่ที่ประมาณ 25,000 บาท
  • กรณีบริษัทมี VAT - ค่าบริการอาจอยู่ที่ประมาณ 30,000 บาท
  • ค่าธรรมเนียม - ค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนเลิกบริษัทและเสร็จการชำระบัญชีที่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประมาณ 1,260 บาท
  • ค่าโฆษณาหนังสือพิมพ์ - อาจมีค่าใช้จ่ายในการประกาศโฆษณาเลิกบริษัทในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น
  • ค่าบริการอื่นๆ - อาจมีค่าบริการอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ค่าจัดทำบัญชี, ค่าตรวจสอบบัญชี, ค่าที่ปรึกษา, และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

อยาก จดเลิกบริษัท ต้องศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมคลิกอ่านที่นี่
ขั้นตอนการดำเนิน จดเลิกบริษัทราคา


1. การจดทะเบียนเลิกบริษัท - ขั้นตอนแรกเพื่อประกาศเจตนาอย่างเป็นทางการว่าจะเลิกบริษัท
  • มีมติเลิกบริษัท
  • แต่งตั้งผู้ชำระบัญชี
  • ยื่นจดทะเบียนเลิกบริษัท
2. การจดทะเบียนเสร็จชำระบัญชี - ดำเนินการหลังจากบริษัทได้เลิกกิจการและชำระบัญชีเรียบร้อยแล้ว
  • ชำระบัญชี
  • ประกาศโฆษณาในหนังสือพิมพ์
  • จัดทำงบการเงินฉบับสุดท้าย
  • ประชุมอนุมัติงบการเงิน
  • ยื่นจดทะเบียนเสร็จชำระบัญชี


จดเลิกบริษัท ราคา เท่าไหร่? ปรึกษาเราได้ที่ นรินทร์ทองคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่
เอกสารที่ลูกค้าจะได้รับในการจดเลิกบริษัท
1. หนังสือรับรองการจดทะเบียนเลิกบริษัท (เลิกกิจการ)
2. หนังสือขีดชื่อเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (กรณีที่บริษัทจด Vat)
3. หนังสือรับรองการเสร็จชำระบัญชีบริษัท
ศึกษา ขั้นตอนการดำเนิน จดเลิกบริษัท กับ นรินทร์ทอง แบบละเอียดคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่

อยาก จดเลิกบริษัท ราคา สุดคุ้ม ไม่มีบวกเพิ่ม ให้ นรินทร์ทอง ช่วยวางแผน

จะเห็นว่า "การจดเลิกบริษัท" เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและมีหลายขั้นตอน ดังนั้นการเลือกใช้บริการจากสำนักงานบัญชีที่มีความเชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้การดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่น ถูกต้อง และรวดเร็ว สำหรับใครที่กำลังมองหาที่จดเลิกบริษัท ราคา สุดคุ้ม ไม่มีบวกเพิ่ม เราขอแนะนำ นรินทร์ทอง สำนักงานบัญชีที่เข้าใจธุรกิจทุกรูปแบบ และพร้อมเดินเคียงข้างคุณทุกขั้นตอน ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339


#3
นรินทร์ทอง จะพาทุกท่านไปเรียนรู้ การวางแผนทําบัญชีร้านขายเสื้อผ้า พร้อมเรียนรู้แนวทางโครงสร้างของธุรกิจ การเก็บเอกสาร และตัวอย่างการบันทึกบัญชีในแต่ละเคสที่น่าสนใจ สำหรับใครต้องการแนวทางเหล่านี้ต้องห้ามพลาด!
เปิดร้านขายเสื้อผ้า ยังไงให้ราบรื่น ให้ นรินทร์ทอง ช่วยแนะนำอ่านเพิ่มเติมคลิก

การวางแผน ทำบัญชีขายเสื้อผ้า


1. ทำความเข้าใจประเภทของบัญชี - คุณต้องเริ่มจากการทำความเข้าใจบัญชีพื้นฐาน 3 ประเภท
  • รายได้ (Revenue)
  • ต้นทุนสินค้าที่ขาย (Cost of Goods Sold - COGS)
  • ค่าใช้จ่าย (Expenses)

2. เลือกระบบการทำบัญชี
  • บัญชีมือ (Manual Accounting)
  • โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูป (Accounting Software)
  • จ้างนักบัญชี (Accountant)

3. บันทึกบัญชีรายรับ-รายจ่าย
  • บัญชีรายรับ
  • บัญชีรายจ่าย
4. การจัดการต้นทุนสินค้าคงคลัง (Inventory Management)
  • บันทึกการซื้อสินค้า
  • บันทึกการขายสินค้า
  • ตรวจสอบสต็อก
5. การจัดทำรายงานทางการเงิน - การบันทึกบัญชีอย่างเดียวไม่เพียงพอ คุณต้องนำข้อมูลมาสรุปเป็นรายงานเพื่อดูผลประกอบการ
  • งบกำไรขาดทุน (Income Statement)
  • งบดุล (Balance Sheet)
  • งบกระแสเงินสด (Cash Flow Statement)

6. การจัดการภาษี
  • ภาษีเงินได้
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
  • ภาษีอื่นๆ
เรียนรู้การวางแผนทำบัญชีร้านเสื้อผ้า แบบละเอียดอ่านเพิ่มเติมคลิก

โครงสร้างธุรกิจเสื้อผ้า

- ต้นทุน (Cost) 
  • คือค่าใช้จ่ายจากต้นทุนจริง ที่เกิดขึ้นระหว่างการผลิตสินค้าหรือบริการ เช่น แรงงาน, วัสดุ, ค่าการตลาดและโฆษณา เป็นต้น
- รายได้ (Revenue)
  • รายได้จากการขายปลีก - การขายเสื้อผ้าให้กับลูกค้าโดยตรงผ่านหน้าร้าน, ร้านค้าออนไลน์ หรือแพลตฟอร์มต่างๆ
  • รายได้จากการขายส่ง - ขายเสื้อผ้าให้กับร้านค้าอื่นๆ หรือตัวแทนจำหน่ายในปริมาณมาก
  • รายได้จากการรับจ้างผลิต - รับจ้างผลิตเสื้อผ้าให้กับแบรนด์อื่นๆ หรือลูกค้าที่สั่งผลิตในปริมาณมาก
- ค่าใช้จ่าย (Expenses)
คือค่าใช้จ่ายทั่วไปที่ทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ ได้แก่
  • ค่าสาธารณูปโภค - ค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าอินเทอร์เน็ต
  • ค่าเช่า - ค่าเช่าพื้นที่สำหรับหน้าร้าน, โกดัง, หรือสำนักงาน
  • ค่าขนส่ง - ค่าจัดส่งสินค้า, ค่าขนส่งวัตถุดิบ
  • ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม - ค่าธรรมเนียมในการขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม E-Commerce
  • ค่าใช้จ่ายอื่นๆ - ค่าบัญชี, ค่าที่ปรึกษา, ค่าซ่อมแซมอุปกรณ์

การเก็บเอกสาร
1. เอกสารการซื้อขาย
2. เอกสารการผลิต
3. เอกสารการเงิน
4. เอกสารทางการตลาด
5. เอกสารอื่นๆ
ซึ่งวิธีการจัดเก็บเอกสารสำหรับธุรกิจเสื้อผ้า สามารถทำได้ดังนี้
1. แบ่งแยกประเภทเอกสาร - แบ่งเอกสารตามประเภท เช่น เอกสารการเงิน, เอกสารการขาย, เอกสารการผลิต และเอกสารการตลาด เป็นต้น
2.จัดเก็บให้เป็นระบบ - คุณสามารถใช้ตัวช่วยอย่าง แฟ้มเอกสาร, ตู้เก็บเอกสาร หรือระบบจัดเก็บดิจิทัล (Cloud storage) เพื่อจัดเก็บเอกสารให้เป็นระเบียบ
3. ระบุหมวดหมู่ให้ชัดเจน - ติดป้ายชื่อหรือใช้ระบบการจัดหมวดหมู่ที่ชัดเจน เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาเอกสาร
4. จัดทำสำเนา - จัดเก็บเอกสารต้นฉบับและสำเนาไว้ในที่ที่ปลอดภัย เพื่อป้องกันความเสียหายหรือการสูญหาย
5. รักษาความปลอดภัย - จัดเก็บเอกสารไว้ในสถานที่ที่ปลอดภัยและจำกัดการเข้าถึง เพื่อป้องกันการถูกขโมยหรือการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
6. ทำลายเอกสารที่หมดอายุ - ทำลายเอกสารที่ไม่จำเป็นหรือหมดอายุตามที่กฎหมายกำหนด โดยใช้เครื่องทำลายเอกสารเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล
7. จัดเก็บเอกสารดิจิทัล - สแกนเอกสารเป็นไฟล์ดิจิทัลและจัดเก็บในระบบคลาวด์ หรือฮาร์ดไดรฟ์สำรอง เพื่อความสะดวกในการเข้าถึงและป้องกันความเสียหาย

ตัวอย่างการบันทึกบัญชี ในแต่ละเคสที่น่าสนใจ
เคสที่ 1: ร้านเสื้อผ้าออนไลน์ขนาดเล็ก (ทำบัญชีแบบง่ายใน Excel)
ลักษณะธุรกิจ: ซื้อเสื้อผ้าจากตลาดขายส่ง มาขายต่อผ่าน Instagram,  Shopee หรือแพลตฟอร์มออนไลน์อื่นๆ ไม่มีการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
การบันทึกบัญชี: ใช้ตาราง Excel ในการบันทึกข้อมูลหลัก 3 ส่วน ได้แก่ รายได้, ต้นทุนสินค้า, และค่าใช้จ่าย
ตัวอย่างการบันทึก: อันดับแรกต้องกำหนดคอลัมพ์ Excel ให้ละเอียดเลยว่า แต่ละคอลัมพ์มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง โดยเริ่มต้นกำหนดคอลัมพ์แรกให้เป็น วัน เดือน / ปี >> รายละเอียดค่าใช้จ่าย >> ช่องทางขาย >> จำนวนเงิน (รายได้) >> จำนวนเงิน (ต้นทุน) >> จำนวนเงิน (ค่าใช้จ่าย) >> หมายเหตุ
เคสที่ 2: ร้านเสื้อผ้าที่มีหน้าร้าน (ใช้โปรแกรม POS และโปรแกรมบัญชี)
ลักษณะธุรกิจ: มีหน้าร้านและขายผ่านช่องทางออนไลน์ มีการจดทะเบียนบริษัท มีการจ้างพนักงาน
การบันทึกบัญชี: สามารถทำได้ 2 ช่องทาง คือ
1. ณ จุดขาย (Point of Sale - POS) - ใช้ระบบ POS ในการบันทึกยอดขายทันทีที่ลูกค้าชำระเงิน ระบบจะบันทึกข้อมูลต่างๆ เช่น วันที่ขาย, จำนวนเงิน, วิธีชำระเงิน, และตัดสต็อกสินค้าอัตโนมัติ
2. โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูป - นำข้อมูลยอดขายจากระบบ POS มาบันทึกในโปรแกรมบัญชี เช่น FlowAccount หรือ PEAK ซึ่งโปรแกรมจะช่วยจัดการ
  • บันทึกรายจ่าย - บันทึกค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าเช่า, เงินเดือนพนักงาน, ค่าไฟ, ค่าการตลาด
  • การจัดการสต็อก - โปรแกรมจะเชื่อมโยงกับระบบ POS เพื่อควบคุมสต็อกได้อย่างแม่นยำ
  • ภาษี - โปรแกรมจะคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และภาษีหัก ณ ที่จ่ายให้
  • การจัดทำรายงาน - โปรแกรมจะสร้างงบกำไรขาดทุนและงบดุลให้อัตโนมัติ
ตัวอย่างการบันทึก:
  • บันทึกยอดขาย  - โปรแกรมดึงข้อมูลจากระบบ POS เช่น ยอดขายวันที่ 15 ส.ค. จำนวน 15,000 บาท
  • บันทึกค่าใช้จ่าย  - บันทึกค่าเช่าร้าน 30,000 บาท
  • บันทึกต้นทุนสินค้า  - บันทึกการซื้อเสื้อผ้าล็อตใหม่ 100 ตัว เป็นเงิน 50,000 บาท
สนใจวางแผนทำบัญชีร้านเสื้อผ้า กับผู้เชี่ยวชาญอย่าง นรินทร์ทองอ่านเพิ่มเติมคลิก

เริ่มต้นทำธุรกิจขายเสื้อผ้า ให้ นรินทร์ทอง เป็นที่ปรึกษาด้าน ทำบัญชีขายเสื้อผ้า พร้อมต่อยอดธุรกิจ
การเลือก ทำบัญชีขายเสื้อผ้า โดยสำนักงานบัญชีที่มีความเชี่ยวชาญ ถือว่าเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์อย่างมาก หากคุณสนใจขอแนะนำ นรินทร์ทอง เป็นที่ปรึกษาด้านการทำบัญชี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339
#4
สิ่งแรกที่นักธุรกิจพิจารณา คือ การวางแผนแนวคิด รวมไปถึงความเข้าใจด้าน บัญชี และ ภาษี เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ ถ้าคุณอยากเปิดร้านนวดแผนไทย นรินทร์ทอง จะชวนทุกคนมาทำความเข้าใจเรื่องการทำ บัญชี ร้าน นวด ที่ต้องรู้ก่อนเริ่มต้นทำธุรกิจ
อยากเปิดร้านนวดแผนไทย ต้องเริ่มยังไงนรินทร์ทอง ยินดีให้คำปรึกษา

การวางแผนทำ บัญชี ร้าน นวด


1. การทำบัญชีด้วยตนเอง (Manual Accounting / Spreadsheet)
  • วิธีการ คือ ใช้สมุดบัญชีสำเร็จรูป หรือสมุดบัญชีแยกประเภททั่วไป (เช่น สมุดรายวันรับ, สมุดรายวันจ่าย) เพื่อบันทึกรายการ เหมาะสำหรับร้านนวดขนาดเล็กที่มีรายการไม่มากนัก เจ้าของกิจการมีความรู้พื้นฐานด้านบัญชี หรือต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย

2. การใช้โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูป (Accounting Software)
  • วิธีการ คือ ใช้โปรแกรมบัญชีที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจโดยเฉพาะ ซึ่งมีทั้งแบบติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ และแบบออนไลน์ เหมาะสำหรับร้านนวดขนาดกลางถึงใหญ่ หรือร้านที่ต้องการความถูกต้องแม่นยำ ประหยัดเวลา

3. การจ้างนักบัญชี/สำนักงานบัญชี (Outsourcing to Accountant/Accounting Firm)
  • วิธีการ คือ มอบหมายงานบัญชีทั้งหมดหรือบางส่วนให้นักบัญชีอิสระ หรือสำนักงานบัญชีเป็นผู้ดูแล เหมาะสำหรับร้านนวดทุกขนาดที่ต้องการความถูกต้องแม่นยำสูงสุด, ประหยัดเวลาของเจ้าของกิจการ, และต้องการคำแนะนำด้านภาษี

ศึกษา การวางแผนทำ บัญชี ร้าน นวด แบบละเอียดคลิกอ่านเต็มๆ ที่นี่

โครงสร้างธุรกิจร้าน นวด


1. ต้นทุนของธุรกิจขายร้านนวด
  • สำหรับธุรกิจบริการอย่างร้านนวด อาจเรียกได้ว่าเป็น ต้นทุนการให้บริการ ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับการให้บริการลูกค้าแต่ละครั้ง ซึ่งต้นทุนส่วนใหญ่จะอยู่ที่ การจ้างแรงงานเป็นหลัก (ต้นทุนค่าจ้าง-หมอนวด) และมีค่าวัสดุอุปกรณ์
2. รายได้ของธุรกิจขาย ร้าน นวด
  • รายได้หลักของธุรกิจนวดแผนไทย มาจากค่าบริการต่างๆ และอาจมีรายได้เสริมจากการขายสินค้าที่เกี่ยวข้อง เช่น รายได้จากการนวดไทยแบบดั้งเดิม (อาจแยกเป็น 1 ชม., 1.5 ชม., 2 ชม.),  รายได้จากการนวดที่ใช้น้ำมันหอมระเหย, รายได้จากการนวดบริเวณเท้า หรือ รายได้จากการขายแพ็กเกจระยะยาว
3. ค่าใช้จ่ายธุรกิจร้านนวด
  • ค่าใช้จ่ายร้านนวดแผนไทย โดยทั่วไปใช้เงินลงทุนค่อนข้างน้อย เพราะค่าใช้จ่ายธุรกิจร้านนวดคือ เงินที่ธุรกิจต้องจ่ายออกไปเพื่อดำเนินกิจการ ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการให้บริการลูกค้าแต่ละราย

การเก็บเอกสาร
1. การจัดเก็บแบบกายภาพ (Hard Copy)
  • แฟ้มเอกสาร: จัดทำแฟ้มแยกตามประเภทเอกสาร (เช่น แฟ้มรายรับ, แฟ้มรายจ่าย, แฟ้มพนักงาน) และแบ่งย่อยตามเดือน/ปี เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา

  • ตู้เก็บเอกสาร: ใช้ตู้ที่มีกุญแจล็อคเพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะเอกสารสำคัญ
  • การเรียงลำดับ: จัดเรียงเอกสารตามวันที่ หรือตามลำดับเลขที่เอกสาร
2. การจัดเก็บแบบดิจิทัล (Soft Copy)
  • สแกนเอกสาร: สแกนเอกสารสำคัญให้เป็นไฟล์ดิจิทัล (PDF) เพื่อสำรองข้อมูลและลดการใช้พื้นที่จัดเก็บในคอมพิวเตอร์/External Hard Drive: สร้างโฟลเดอร์แยกตามประเภทเอกสารและปี
  • Cloud Storage: ใช้บริการ Cloud Storage (เช่น Google Drive, Dropbox, OneDrive) เพื่อความสะดวกในการเข้าถึงจากทุกที่ และเป็นระบบสำรองข้อมูลอัตโนมัติ
  • โปรแกรมบัญชี/บริหารจัดการร้าน: โปรแกรมเหล่านี้มักมีฟังก์ชันการจัดเก็บเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ หรือเชื่อมโยงกับเอกสารที่เกี่ยวข้อง

ตัวอย่างที่น่าสนใจพร้อมวิธีการบันทึก
การบันทึกรายได้รายครั้ง – รับเงินสด
คือ การให้บริการนวดเป็นรายครั้ง และลูกค้าจ่ายเงินทันทีหลังใช้บริการ เราจึงสามารถบันทึกรายได้ได้ทันที
ยกตัวอย่างเช่น: ลูกค้ามาใช้บริการร้านนวด 1 ชั่วโมง ค่าบริการ 1,000 บาท ชำระด้วยเงินสดหลังใช้บริการ
การบันทึกรายได้รายครั้ง – รับบัตรเครดิต
การรับชำระบัตรเครดิต เป็นอีกทางเลือกในการรับเงิน ถ้าร้านค้ารับชำระด้วยบัตรเครดิต ธนาคารจะคิดค่าธรรมเนียมจากร้านค้าต่อรายการ เช่น ร้อยละ 1% จากจำนวนเงินที่จ่ายต่อครั้ง เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะเกิดรายได้แล้ว ในขณะเดียวกันก็เกิดค่าใช้จ่ายที่เรียกว่า ค่าธรรมเนียมธนาคารด้วยเช่นกัน
ยกตัวอย่างเช่น: ลูกค้ามาใช้บริการร้านนวด 1 ชั่วโมง ค่าบริการ 1,000 บาท ชำระด้วยบัตรเครดิตหลังใช้บริการ โดยธนาคารจะหักค่าธรรมเนียม 1% ก่อนโอนเงินให้ร้านค้า
สนใจวางแผนทำ บัญชี ร้าน นวด กับเรานรินทร์ทองคลิกอ่านเต็มๆ ที่นี่

เรียนรู้แนวทางการเสียภาษี และจัดทำ บัญชี ร้าน นวด ปรึกษาเราได้ที่ นรินทร์ทอง
สำหรับใครที่สนใจเปิดธุรกิจร้านนวดแผนไทย คุณสามารถหา สำนักงานบัญชีมืออาชีพ เพื่อคลายความกังวลด้านบัญชีและภาษีให้กับร้านของคุณ เราขอแนะนำนรินทร์ทองสำนักงานบัญชีที่เข้าใจธุรกิจทุกรูปแบบ และพร้อมเดินเคียงข้างคุณทุกขั้นตอน ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339


#5

"การยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่าย" สำหรับเจ้าของธุรกิจนั้น มีหลายขั้นตอน วันนี้ นรินทร์ทอง จึงอยากมาให้ความรู้เกี่ยวกับ การ ยื่น ภาษี หัก ณ ที่ จ่าย สำหรับธุรกิจว่า ควรเสียยังไง? แบบฟอร์มที่เกี่ยวข้องมีอะไรบ้าง? เพื่อเป็นคู่มือให้กับผู้ประกอบการมือใหม่
อยากยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่ายด้วยตัวเอง อ่านคู่มือการยื่นเพิ่มเติมคลิกที่นี่

ภาษีหัก ณ ที่จ่าย คืออะไร?


คำว่า "ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (Withholding Tax)" คือ ระบบการจัดเก็บภาษีล่วงหน้าประเภทหนึ่งที่กรมสรรพากรกำหนดขึ้น โดยผู้จ่ายเงินได้บางประเภทมีหน้าที่ต้อง หักเงินจำนวนหนึ่งไว้จากเงินที่จ่ายให้แก่ผู้รับ แล้วนำเงินที่หักไว้นั้นไป นำส่งให้แก่กรมสรรพากร แทนผู้รับเงินได้

แบบฟอร์มที่เกี่ยวข้องกับ การยื่นภาษี หัก ณ ที่ จ่าย


1. หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (มาตรา 50 ทวิ หรือ 50 ทวิ/ป.ม.ร.)
  • เป็นเอกสารที่มีรายละเอียดของ ผู้จ่ายเงิน ผู้รับเงิน ประเภทเงินได้ที่จ่าย ยอดเงินได้ที่จ่าย และยอดภาษีที่หักไว้ โดยผู้จ่ายเงิน มีหน้าที่ต้องออกให้แก่ผู้รับเงินทุกครั้งที่มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่า มีการหักภาษีไปแล้วเท่าไหร่
2. แบบแสดงรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (รายเดือน/รายงวด)
  • เป็นแบบฟอร์มที่ผู้หักภาษีต้องนำส่งกรมสรรพากร ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป (หรือวันที่ 15 หากยื่นออนไลน์) ของเดือนที่มีการจ่ายเงินได้
3. แบบแสดงรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (สรุปประจำปี)
  • เป็นแบบฟอร์มที่เจ้าของธุรกิจมีหน้าที่นำส่งกรมสรรพากร ภายในเดือนกุมภาพันธ์ของปีถัดไป (สำหรับเงินได้ที่เกิดขึ้นในปีภาษีที่ผ่านมา) เพื่อสรุปยอดรวมทั้งปี

เรียนรู้วิธีการยื่นแบบฟอร์มภาษีหัก ณ ที่จ่ายแบบละเอียดคลิกที่นี่


ขั้นตอนการ ยื่น ภาษี หัก ณ ที่ จ่าย


1. ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบ
1.1) ในกรณีที่ยังไม่เคยลงทะเบียน
  • ให้ไปที่เว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th
  • เลือกเมนู "e-Filing" หรือ "ยื่นแบบออนไลน์"
  • คลิก "ลงทะเบียน" และกรอกข้อมูลตามที่ระบบกำหนด
  • เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี และ รหัสผ่าน ที่ตั้งไว้เพื่อเข้าสู่ระบบ

1.2) ในกรณีที่เคยลงทะเบียนแล้ว
  • ไปที่เว็บไซต์กรมสรรพากร จากนั้นเลือกเมนู e-Filing และ Log-in เข้าสู่ระบบ


2. เลือกแบบฟอร์มที่ต้องการยื่น
  • ในขั้นตอนนี้คุณต้องเลือกแบบฟอร์มภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินของคุณ
  • เลือกงวดภาษี โดยทำการระบุ ปีภาษี และ เดือนที่เกิดรายการ (เดือนที่คุณจ่ายเงินและหักภาษีไว้)


3. กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มออนไลน์ - ในขั้นตอนนี้คือ การป้อนข้อมูลรายละเอียดการหักภาษี ณ ที่จ่าย
  • เลือกประเภทการยื่น - มีทั้งยื่นปกติ สำหรับการยื่นครั้งแรกในงวดนั้นๆ และ ยื่นเพิ่มเติม สำหรับกรณีที่เคยยื่นไปแล้วแต่ต้องการแก้ไขข้อมูลหรือเพิ่มรายการ
  • กรอกข้อมูลผู้หักภาษี - ข้อมูลส่วนใหญ่จะถูกดึงมาจากข้อมูลการลงทะเบียนของคุณอยู่แล้ว ให้ตรวจสอบความถูกต้องให้เรียบร้อย
  • กรอกรายละเอียดผู้ถูกหักภาษี
  • หากมีการจ่ายเงินให้ผู้รับหลายราย ให้คลิก "เพิ่มรายการ" หรือ "Add Item" เพื่อกรอกข้อมูลของผู้รับเงินแต่ละราย
  • เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วนแล้ว ให้ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทั้งหมด โดยเฉพาะยอดเงินได้และยอดภาษีที่หักไว้


4. ยืนยันการยื่นแบบและเลือกช่องทางการชำระภาษี
  • คลิกปุ่ม "ยืนยันการยื่นแบบ" หรือ "Submit" ระบบจะแสดงข้อมูลสรุปให้คุณตรวจสอบอีกครั้ง จากนั้นเลือกช่องทางการชำระภาษี เช่น Internet Banking/Mobile Banking, QR Code หรือบัตรเครดิต (มีค่าธรรมเนียม)



5. ชำระภาษี - นำข้อมูลจากใบแจ้งการชำระเงิน ไปดำเนินการชำระเงินตามช่องทางที่คุณเลือก (เช่น เข้าสู่ระบบ Internet Banking ของธนาคารเพื่อทำการโอนเงิน) หลังจากนั้นระบบจะใช้เวลาในการประมวลผล คุณสามารถกลับมาตรวจสอบสถานะ การชำระเงินในระบบ e-Filing ได้

เรียนรู้วิธีการยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่าย ผ่านออนไลน์คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่

ยื่น ภาษี หัก ณ ที่ จ่าย กับ นรินทร์ทอง เราพร้อมให้คำปรึกษา และบริการที่ครอบคลุม
หลังจากที่ได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ การ ยื่น ภาษี หัก ณ ที่ จ่าย จะเห็นว่ามีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเกี่ยวข้องกับกฎหมาย และแน่นอนว่าการยื่นผ่านระบบออนไลน์ในปัจจุบัน เป็นเรื่องง่ายที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ แต่ถ้าคุณประกอบธุรกิจขนาดปานกลาง-ใหญ่ หรือมีรายการหัก ณ ที่จ่ายที่ซับซ้อน/จำนวนมาก การยื่นผ่านระบบออนไลน์ด้วยตนเอง อาจมีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย เพราะฉะนั้น การใช้บริการสำนักงานบัญชี จะคุ้มค่ากว่าในระยะยาว เพราะช่วยลดความเสี่ยง ประหยัดเวลา และทำให้คุณมั่นใจในความถูกต้อง
หากคุณกำลังมองหา สำนักงานบัญชีที่เป็นทั้งที่ปรึกษาด้านการวางแผนภาษี และบัญชีโดยรวมของธุรกิจ ขอแนะนำ นรินทร์ทอง สำนักงานบัญชีที่เข้าใจธุรกิจทุกรูปแบบ และพร้อมเดินเคียงข้างคุณทุกขั้นตอน ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339
#6

สำหรับท่านใดที่ต้องยื่น ภ.ง.ด. 90/91 บทความนี้ นรินทร์ทอง จะมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับ ภ งด 90 91 ยื่น ภาษี ออนไลน์ พร้อมทั้งอธิบายความแตกต่าง รวมถึงขั้นตอนการยื่นภาษีเงินได้ทั้ง 2 ประเภทนี้ จะมีรายละเอียดอย่างไร อ่านข้อมูลทั้งหมดได้ที่นี่เลย!
ทำความรู้จัก การยื่น ภ.ง.ด. 90/91 ออนไลน์ กับ นรินทร์ทองคลิกอ่านที่นี่

ภ งด 90 91 คืออะไร

ภ.ง.ด. 90 คือ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผู้ที่มีเงินได้กรณีทั่วไป เช่น รายได้จากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ หรือรายได้จากกิจการของตัวเอง โดยจะเป็นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผู้ที่มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) ถึง 40(8) หลายประเภทหรือประเภทเดียว

ส่วน ภ.ง.ด. 91 คือ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผู้มีเงินได้จากการจ้างแรงงาน โดย ภ.ง.ด. 91 เป็นแบบแสดงรายการเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับคนที่มีรายได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) ประเภทเดียว ที่ได้จากการจ้างงาน

ระหว่าง ภ งด 90 กับ 91  เลือกยื่นแบบไหนดี ?


1. ผู้ที่ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 - ได้แก่ ผู้มีรายได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) ถึง (8) แห่งประมวลรัษฎากรหลายประเภทหรือประเภทเดียว
2. ผู้ที่ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.91 - ได้แก่ ผู้มีเงินได้จากการจ้างงาน ตามมาตรา 40(1) แห่งประมวลรัษฎากรประเภทเดียว ตามเกณฑ์ดังนี้
- ผู้ที่เป็นโสด มีเงินได้พึงประเมินเกิน 120,000 บาท
- ผู้ที่มีคู่สมรส มีเงินได้พึงประเมินไม่ว่าฝ่ายเดียวหรือสองฝ่ายรวมกันเกิน 220,000 บาท

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ การยื่น ภ งด 90 กับ 91 แบบละเอียด อ่านที่นี่


ขั้นตอนการทำ ภ งด 90 91 ยื่นภาษีออนไลน์

1. รวบรวมเอกสาร/ข้อมูล
- หนังสือรับรองเงินเดือน/เงินได้ (ใบ 50 ทวิ)
- เอกสารประกอบการลดหย่อนภาษี
- ข้อมูลรายได้อื่นๆ

2. เข้าสู่ระบบ e-Filing ของกรมสรรพากร
- ไปที่เว็บไซต์ www.rd.go.th แล้วเลือกเมนู "E-FILING"
- เข้าสู่ระบบด้วย User ID (เลขบัตรประชาชน) และ Password ของคุณ

3. เลือกแบบ ภ.ง.ด. ที่ถูกต้อง
- ภ.ง.ด. 91
- ภ.ง.ด. 90

4. กรอกข้อมูลตามขั้นตอนในระบบ
- ระบบจะนำทางให้คุณกรอกข้อมูลส่วนตัว
- กรอกข้อมูลเงินได้แต่ละประเภท (โดยใช้ข้อมูลจากใบ 50 ทวิ และข้อมูลรายได้อื่นๆ)
- กรอกรายการค่าลดหย่อนต่างๆ (โดยใช้ข้อมูลจากเอกสารลดหย่อนที่คุณเตรียมไว้)
- ระบบจะทำการคำนวณภาษีให้โดยอัตโนมัติ


5. ตรวจสอบความถูกต้อง
- ทบทวนข้อมูลทั้งหมดที่กรอกไป โดยเฉพาะตัวเลขรายได้ ค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อน
- ตรวจสอบยอดภาษีที่ระบบคำนวณได้ (ต้องชำระเพิ่ม / ได้รับคืน)

6. ยืนยันการยื่นแบบ ระบบ e-Filing
- เมื่อตรวจสอบครบถ้วนและถูกต้อง ให้กดยืนยันการยื่นแบบ

7. ชำระภาษี (ถ้ามี)
- ระบบจะแจ้งยอดภาษีที่ต้องชำระ (ถ้ามี) คุณสามารถเลือกชำระผ่านช่องทาง E-Payment (เช่น Mobile Banking, Internet Banking, บัตรเครดิต) หรือพิมพ์ใบแจ้งชำระเงินไปชำระที่ธนาคาร/เคาน์เตอร์เซอร์วิส
- กรณีขอคืนภาษี: ระบบจะแจ้งยอดที่ได้รับคืน และเงินจะถูกโอนเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชน


8. เก็บหลักฐาน
- บันทึก/พิมพ์ใบตอบรับการยื่นแบบ และใบเสร็จรับเงิน (หากมีการชำระภาษี) เก็บไว้เป็นหลักฐาน

ยื่นภาษีอย่างถูกต้อง ทุกขั้นตอนไม่มีพลาด เลือกปรึกษา กับ นรินทร์ทองอ่านเพิ่มเติมคลิก

ภ งด 90 91 ยื่น ภาษี ออนไลน์ อย่างถูกต้อง นรินทร์ทอง พร้อมให้คำปรึกษา

ถ้าหากใครที่สนใจอยากทำธุรกิจ มีความจำเป็นต้องยื่นภาษี ควรทำความเข้าใจหลักการเบื้องต้น และขั้นตอนการยื่น ภ.ง.ด.90/91 รวมถึง ภ.ง.ด. ประเภทอื่นๆ เพิ่มเติม ถ้าอยากได้คำปรึกษาเชิงลึก ขอแนะนำ นรินทร์ทอง สำนักงานบัญชีที่เข้าใจธุรกิจทุกรูปแบบ และพร้อมเดินเคียงข้างคุณทุกขั้นตอน ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339


#7

หากคุณเริ่มต้นประกอบธุรกิจ และต้องการคู่มือในการยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคล การยื่น ภ.ง.ด. 50 จะไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะจะต้องมีการยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคลทุกปี ส่วนขั้นตอนการยื่นจะเป็นอย่างไร? วันนี้ นรินทร์ทอง ได้รวบรวมข้อมูลมาไว้ให้คุณแล้ว!
นรินทร์ทองสอนวิธีการยื่น ภ.ง.ด. 50 ทุกขั้นตอน เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่นี่

แบบ ภ งด 50 คืออะไร

ภ.ง.ด. 50 คือ แบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำปี หรือเรียกง่ายๆ ว่า "ภาษีเงินได้นิติบุคคลสิ้นปี" ซึ่งเป็นหน้าที่ของคนที่ทำธุรกิจในรูปแบบของบริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล เมื่อมีกำไรถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีตามกฎหมาย

การยื่น ภ.ง.ด. 50 ต้องเตรียมข้อมูลอะไรบ้าง ?


1.  งบการเงินประจำปี
2. กระดาษทำการปรับปรุงกำไรสุทธิทางบัญชี เป็นกำไรสุทธิทางภาษี
3. ใบทวิ 50 (หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย)
4. หลักฐานการชำระ ภ.ง.ด. 51
5. เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร 13 หลัก
6. User ID และ Password
7. ข้อมูลผู้ทำบัญชี


เรียนรู้เอกสารที่ต้องเตรียมก่อนยื่น ภ งด 50 ออนไลน์แบบละเอียด คลิกอ่านที่นี่


แนะนำขั้นตอนการ ยื่น ภ งด 50 ออนไลน์

1. เข้าสู่เว็บไซต์กรมสรรพากร และเข้าสู่ระบบ e-Filing เปิดเว็บเบราว์เซอร์แล้วเข้าสู่เว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th

2. เลือกแบบ ภ.ง.ด. 50 เมื่อเข้าสู่ระบบได้แล้ว จะมีเมนูให้เลือกประเภทแบบแสดงรายการภาษี เลือก "แบบ ภ.ง.ด. 50" (ภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำปี) แล้วคลิก "ยื่นแบบ"

3. กรอกข้อมูลทั่วไปของกิจการ ระบบจะแสดงข้อมูลพื้นฐานของกิจการ เช่น ชื่อ, เลขประจำตัวผู้เสียภาษี, ที่อยู่

4. กรอกข้อมูลทางการเงินและภาษี ในส่วนนี้จะต้องกรอกข้อมูลจากงบการเงิน และผลการคำนวณภาษีให้ครบถ้วน

5. กรอกข้อมูลผู้ทำบัญชีและผู้สอบบัญชี โดยทำการกรอกชื่อ-สกุล, เลขประจำตัวประชาชน, และเลขทะเบียนผู้ทำบัญชี

6. แนบไฟล์งบการเงินและรายงานผู้สอบบัญชี ระบบ e-Filing จะมีช่องให้คุณอัปโหลดไฟล์งบการเงิน และรายงานผู้สอบบัญชีที่อยู่ในรูปแบบที่กำหนด

7. ตรวจสอบข้อมูลและยืนยันการยื่นแบบ ในขั้นตอนนี้ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน ทุกตัวเลข รายการปรับปรุง และข้อมูลส่วนตัวของกิจการและผู้เกี่ยวข้อง

8. บันทึก/พิมพ์ใบตอบรับและชำระภาษี (ถ้ามี) เมื่อยืนยันการยื่นแบบเรียบร้อยแล้ว ระบบจะแสดง "ใบตอบรับอิเล็กทรอนิกส์" และ "ใบแจ้งการชำระเงิน" (ถ้ามีภาษีต้องชำระ)


อยากรู้ขั้นตอนการยื่น ภงด 50 ออนไลน์แบบละเอียด คลิกอ่านที่นี่ คลิกอ่านที่นี่

ประหยัดเวลา ลดความเสี่ยงทางภาษี ยื่น ภ งด 50 ออนไลน์ กับ นรินทร์ทอง

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ จะเห็นว่า การยื่น ภ งด 50 ออนไลน์ เป็นเรื่องที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าหากคุณต้องการความถูกต้องแม่นยำ ลดความเสี่ยงทางภาษี ประหยัดเวลา และได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ การลงทุนในบริการจ้างสำนักงานบัญชี ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า เมื่อเทียบกับความเสี่ยงและภาระที่คุณต้องแบกรับ หากทำเองโดยไม่มีความเชี่ยวชาญเพียงพอ นรินทร์ทอง เรายินดีให้บริการ ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339


#8

เปิดบริษัทมาแล้วปีกว่า แต่ยังไม่ได้ยื่นภาษี ต้องทำยังไง? สำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ท่านใด ที่อยากทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการยื่น ภ.ง.ด.51 บทความนี้ นรินทร์ทอง จะมาแนะนำ วิธีการ ยื่น ภ งด 51 ออนไลน์ ครบจบทุกขั้นตอน!
ทำความรู้จัก ภ.ง.ด.51 แบบละเอียดก่อนตัดสินใจยื่น อ่านบทความเต็มๆ ได้ที่นี่

แบบ ภ.ง.ด.51 คืออะไร

สำหรับ ภ.ง.ด. 51 หรือที่เรียกว่า ภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี คือ แบบแสดงรายงานเงินได้และประมาณการภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี โดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ต้องประมาณรายได้และภาษีที่ต้องชำระสำหรับครึ่งปีแรกของรอบบัญชี และนำส่งต่อกรมสรรพากร


ต้องเตรียมเอกสาร หรือ ข้อมูลอะไรบ้าง ก่อนยื่น ภ.ง.ด. 51 ออนไลน์ ?


1.  ข้อมูลเกี่ยวกับกิจการ
  • เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร 13 หลัก ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
  • ชื่อกิจการ
  • ที่อยู่ของกิจการ
  • ประเภทกิจการ
  • รอบระยะเวลาบัญชี: เช่น 1 มกราคม - 31 ธันวาคม

2. ข้อมูลทางการเงินเพื่อประมาณการกำไรสุทธิ (กรณีทั่วไปที่ใช้การประมาณการ)
  • คุณต้องนำส่วนนี้มาคำนวณภาษีครึ่งปี ดังนั้นคุณต้องมีข้อมูลทางการเงินของกิจการอย่างน้อยในช่วง 6 เดือนแรกของรอบระยะเวลาบัญชี เพื่อใช้ในการประมาณการสำหรับทั้งปี

3. ข้อมูลผู้ทำบัญชี (ถ้ามี)
  • ชื่อผู้ทำบัญชี
  • เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ทำบัญชี

4. ข้อมูลผู้ตรวจสอบและรับรองบัญชี (สำหรับบางกรณี)
  • สำหรับบริษัทที่ต้องสอบทานงบการเงินระยะเวลา 6 เดือน เช่น บริษัทมหาชนจำกัด, บริษัทเงินทุน หรือนิติบุคคลที่คำนวณภาษีจากกำไรสุทธิรอบระยะเวลาบัญชี 6 เดือนแรก โดยคุณจะต้องระบุชื่อผู้ตรวจสอบและรับรองบัญชีพร้อมเลขทะเบียน

อ่านเอกสารที่ต้องเตรียมก่อนยื่น ภ.ง.ด. 51 คลิกอ่านเพิ่มเติม ได้ที่นี่


ขั้นตอนการยื่น ภ งด 51 ออนไลน์


1. เข้าเว็บไซต์ของกรมสรรพากร เลือก e-Filing และเลือก "ยื่นแบบออนไลน์"
2. เข้าสู่ระบบ e-Filing โดยการกรอกเลขบัตรประชาชนในช่องชื่อผู้ใช้งาน พร้อมกรอกรหัสผ่าน และกด "ตกลง" จากนั้นยืนยันตัวตนด้วยรหัส OTP 6 หลัก ผ่านเบอร์โทรศัพท์มือถือ
3. เลือกยื่นแบบภาษีเงินได้ ภ.ง.ด. 5 อ่านและยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไข ในการใช้บริการอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร จากนั้นกด "เข้าสู่ระบบ" และเลือก "ยื่นแบบ ภ.ง.ด. 51"
4. กรอกข้อมูลกิจการ ระบบจะดึงข้อมูลพื้นฐานของกิจการขึ้นมาให้ตรวจสอบ เช่น เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร ชื่อกิจการ ที่อยู่ ฯลฯ
5. กรอกข้อมูลประมาณการกำไรสุทธิและภาษี ในหน้านี้คุณจะต้องกรอกข้อมูลทางการเงิน เพื่อใช้ในการประมาณการกำไรสุทธิของทั้งรอบระยะเวลาบัญชี
6. กรอกข้อมูลผู้ทำบัญชี กรอกชื่อ-สกุล เลขประจำตัวประชาชน และเลขทะเบียนผู้ทำบัญชี
7. กตรวจสอบข้อมูลและยืนยันการยื่นแบบ หลังจากกรอกข้อมูลครบถ้วน ระบบจะสรุปข้อมูลให้คุณตรวจสอบอีกครั้ง
8. ตรวจสอบความถูกต้อง ระบบจะมีการคำนวณ และช่วยตรวจสอบความถูกต้องเบื้องต้น
9. ยืนยันและส่งแบบ เมื่อตรวจสอบข้อมูลเรียบร้อยแล้วกด "ยืนยัน" เพื่อส่งแบบ ภ.ง.ด. 51
10. ชำระภาษี (ถ้ามี) สามารถชำระผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ เช่น Mobile Banking, Internet Banking, บัตรเครดิต, ATM หรือพิมพ์ใบแจ้งชำระเงินไปชำระที่ธนาคาร/เคาน์เตอร์เซอร์วิส

สนใจยื่น ภ.ง.ด. 51 ออนไลน์ กับผู้เชี่ยวชาญ แนะนำนรินทร์ทอง คลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

เจอปัญหาระหวว่าง ยื่น ภ งด 51 ออนไลน์ นรินทร์ทอง พร้อมให้คำแนะนำ
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้จะเห็นว่าการ ยื่น ภ งด 51 ออนไลน์ นั้น ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องใส่ข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วน ซึ่งโดยรวมแล้ว การยื่นออนไลน์จะช่วยลดภาระงานและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการบริหารจัดการภาษีของธุรกิจคุณได้อย่างมาก ดังนั้นหากใครที่เพิ่งเคยทำธุรกิจรูปแบบนิติบุคคล อย่าลืมศึกษาเรื่องของ "ภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี" เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนเบี้ยปรับ และทำให้การยื่นแบบในปีถัดๆ ไปนั้นง่ายยิ่งขึ้น แต่หากคุณไม่มีความรู้ เวลา หรือต้องการความมั่นใจสูงสุด ารจ้างสำนักงานบัญชีมาดูแล ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า โดยเราขอแนะนำ นรินทร์ทอง สำนักงานบัญชีที่เข้าใจธุรกิจทุกรูปแบบ และพร้อมเดินเคียงข้างคุณทุกขั้นตอน ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339
#9


การตรวจสอบงบการเงินของบริษัท จะทำโดย "ผู้สอบบัญชี" (Auditor) เพื่อให้ข้อมูลด้านบัญชีและภาษีของบริษัทถูกต้อง ครบถ้วน สำหรับใครที่เป็นผู้ประกอบการมือใหม่ ข้อมูลที่ นรินทร์ทอง ได้นำมาแชร์ให้ทุกคนวันนี้ จะช่วยให้คุณสามารถเลือกใช้บริการ สำนักงานบัญชีได้อย่างมีคุณภาพ

ผู้สอบบัญชี สำคัญต่อธุรกิจมากแค่ไหน ? อยากอ่านเพิ่มเติม คลิกที่นี่



ผู้ สอบ บัญชี คือ

ผู้ตรวจสอบบัญชี คือ บุคคลหรือหน่วยงานที่มีใบอนุญาต มีความเชี่ยวชาญในการตรวจสอบ และรับรองความถูกต้องงบการเงินของบริษัท ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล รวมถึงองค์กรต่างๆ 

ประเภทของผู้สอบบัญชี

1. ผู้สอบบัญชีภาษีอากร (TA: Tax auditor) - คือบุคคลที่ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นผู้สอบบัญชีภาษีอากร
2. ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตทั่วไป (CPA: Certified Public Accountant) - คือบุคคลที่ต้องขึ้นทะเบียน และได้รับใบอนุญาตเป็นผู้สอบบัญชี
3.  ผู้สอบบัญชีตลาดทุน (List of Auditors Approved by the office of SEC) - คือผู้ที่ได้รับอนุญาตความเห็นชอบจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ในการรับรองงบการเงินสำหรับบริษัทที่อยู่ในตลาดทุน
4. ผู้ตรวจสอบภายใน (Internal Auditors) หรือ IA -  คือบุคคลที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ และประเมินประสิทธิภาพระบบการควบคุมภายในองค์กร 

เรียนรู้ ผู้สอบบัญชีแต่ละประเภท คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่

หน้าที่ของผู้สอบ

1. ตรวจสอบงบการเงิน - ตรวจสอบความถูกต้องของรายงาน เพื่อดูว่าเอกสารทางบัญชีมีหลักฐานสนับสนุน
2. แสดงความเห็น - ออกความเห็นว่างบการเงิน "ถูกต้อง", "มีข้อสงสัย", "มีข้อผิดพลาด", หรือ "ไม่สามารถให้ความเห็นได้"
3. ประเมินความเสี่ยง - ตรวจสอบระบบควบคุมภายใน (Internal Control) ของกิจการ และวิเคราะห์ความเสี่ยง
4. ให้คำแนะนำทางบัญชีและภาษี  - แนะนำการจัดทำบัญชีให้ถูกต้อง และช่วยจัดระบบเอกสาร
5. รายงานต่อหน่วยงานภาครัฐ - ในกรณีที่บริษัทต้องยื่นงบต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) หรือกรมสรรพากร 

อยากจ้าง ผู้สอบบัญชี ศึกษาหน้าที่ของผู้สอบ คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่

ต้องการ ผู้สอบบัญชีมืออาชีพ ปรึกษาเราได้ฟรี ที่ นรินทร์ทอง!
หากคุณต้องการให้ธุรกิจของคุณ สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเติบโตอย่างมั่นคง ไม่ต้องไปที่ไหนไกล เพราะที่ บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด มีบริการตรวจสอบบัญชีโดยผู้สอบบัญชี ที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานวิชาชีพบัญชีของประเทศไทย นอกจากนี้ยังให้บริการทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339
#10


ตามกฎหมายแล้ว นิติบุคคล มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้เงินนิติบุคคล (ภ.ง.ด.) ปีละ 2 ครั้ง นั่นคือ ภ.ง.ด.50 และ ภ.ง.ด.51 หลายๆ คนอาจเกิดคำถามว่า "ภ งด 50 51 ต่าง กัน อย่างไร?" วันนี้ นรินทร์ทอง จะพามาทำความรู้จัก ภ.ง.ด. ทั้ง 2 ประเภท เพื่อให้คุณสามารถยื่นภาษีได้อย่างถูกต้อง

ทำความรู้จัก ภ งด 50 51 แบบละเอียด คลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่


ภ.ง.ด.50


ภ.ง.ด.50 คือ แบบฟอร์มที่ใช้สำหรับ ยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคลปลายปี ซึ่งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลทุกแห่งในประเทศไทย ต้องจัดทำและยื่นต่อกรมสรรพากรเมื่อสิ้นสุดรอบบัญชีของกิจการ ซึ่งผู้ที่ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 ได้แก่ นิติบุคคลทุกประเภท ที่จดทะเบียนในประเทศไทย ไม่ว่าจะมีรายได้หรือไม่ก็ตาม โดยมีกำหนดให้ยื่นแบบภายใน 150 วัน (นับจากวันสิ้นสุดรอบบัญชี)
วิธีการกรอกแบบ ภ.ง.ด. 50
1. เตรียมข้อมูลก่อนกรอกแบบ
2. กรอกแบบผ่านเว็บไซต์ e-Filing
3. ลงนามและแนบเอกสาร
4. ชำระภาษี (ถ้ามี)
5. กำหนดเวลายื่น ภายใน 150 วัน นับจากวันสิ้นสุดรอบบัญชี
อยากอ่านข้อมูล ภ.ง.ด. 50 แบบละเอียด คลิกที่นี่

 
ภ.ง.ด.51

ภ.ง.ด. 51 คือ แบบฟอร์มที่ใช้สำหรับ ยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคลกลางปี ที่นิติบุคคลทุกแห่งต้องยื่นเพื่อแสดงผลประกอบการ ครึ่งปีแรก (6 เดือน) ต่อกรมสรรพากร ซึ่งถือเป็นการประเมิน "รายได้และกำไร" ของกิจการแบบประมาณการ ซึ่งผู้ที่ต้องยื่นคือ บริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่ประกอบกิจการในประเทศไทย โดยื่นภายใน 2 เดือน นับจากวันสิ้นครึ่งรอบบัญชี
วิธีการกรอกแบบ ภ.ง.ด. 51
1. ข้อมูลทั่วไปของบริษัท
2. ข้อมูลทางการเงิน (ประมาณการ)
3. การคำนวณภาษี
4. การแนบเอกสาร
5. การลงนามและส่งแบบ
6. กำหนดเวลายื่น
อยากอ่านข้อมูล ภ.ง.ด. 51 แบบละเอียด คลิกที่นี่

 
เปรียบเทียบ ภ งด 50 51 ต่าง กัน อย่างไร?
ภ.ง.ด.50
  • วัตถุประสงค์-ใช้ยื่นภาษีตามผลประกอบการจริงตลอดทั้งรอบบัญชี
  • ช่วงเวลาที่ยื่น - รอบบัญชีเต็มปี (12 เดือน)
  • ยื่นเมื่อไหร่ - ภายใน 150 วัน นับจากวันสิ้นสุดรอบบัญชี เช่น รอบ ม.ค.–ธ.ค. ต้องยื่นภายใน 30 พ.ค.
  • ข้อมูลที่ใช้ - ข้อมูลทางบัญชีจริงจากงบการเงิน
  • เอกสารประกอบ - งบการเงิน, รายงานผู้สอบบัญชี, รายละเอียดภาษีหัก ณ ที่จ่าย
  • ผลทางกฎหมาย - ถือเป็นการยื่นภาษีที่ใช้ยืนยันรายได้จริง

 
ภ.ง.ด.51
  • วัตถุประสงค์ - ใช้ยื่นภาษีจากประมาณการกำไรสุทธิในครึ่งปีแรก
  • ช่วงเวลาที่ยื่น - ครึ่งปีแรกของรอบบัญชี (6 เดือน)
  • ยื่นเมื่อไหร่ - ภายใน 2 เดือน หลังสิ้นครึ่งรอบบัญชี เช่น รอบ ม.ค.–ธ.ค. ต้องยื่นภายใน 31 ส.ค. ของทุกๆ ปี
  • ข้อมูลที่ใช้ - รายได้-ค่าใช้จ่าย แบบประมาณการ
  • เอกสารประกอบ - รายการคำนวณกำไร, รายละเอียดประมาณการ
  • ผลทางกฎหมาย - ใช้ชำระภาษีล่วงหน้าเท่านั้น (แต่หากแจ้งต่ำโดยไม่มีเหตุผล มีโทษปรับ)

 
ยื่นแบบได้ที่ไหน
  • สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา (กรณียื่นด้วยเอกสาร) - ต้องแนบเอกสารและลงลายมือชื่อกรรมการผู้มีอำนาจ


 
ภ งด 50 51 ต่าง กัน อย่างไร? ให้ "นรินทร์ทอง" ดูแลให้ถูกตั้งแต่ต้น
โดยสรุปแล้ว ภ.ง.ด.50 และ ภ.ง.ด.51 ต่างกันในเรื่องของ "ช่วงเวลา" และ "วัตถุประสงค์ในการยื่น" ดังนั้นอย่างลืมเช็กก่อนยื่น เพราะหากยื่นผิดหรือยื่นล่าช้า จะมีโทษปรับทางกฎหมาย และโดนเบี้ยปรับทางภาษีอีกด้วย นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเจ้าของกิจการหลายคนเลือก "จ้างสำนักงานบัญชีมืออาชีพ" มาช่วยดูแล และแน่นอนว่า บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด ช่วยคุณได้! เพราะเราให้บริการ รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339
#11

นรินทร์ทองให้บริการรับจดทะเบียนนิติบุคคลทุกรูปแบบ ห้างหุ้นส่วน (หจก) บริษัทจำกัด (บจก) ถูกต้องรวดเร็ว ภายใน 1 วัน

มีประสบการณ์มากกว่า 100 เคส พร้อมสิทธิพิเศษ ปรึกษาวางแผนการทำบัญชี และ ส่วนลดเมื่อทำบัญชีกับเรา

เริ่มต้นธุรกิจอย่างมั่นคงกับเรานรินทร์ทอง

เริ่มต้น 5,000 บาท (Walk In)
*ไม่รวมค่าธรรมเนียมการจัดตั้ง*

Tel: 081-627-6872
LINE: @Narinthong


จดทะเบียนบริษัท กับเราเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ

1. บริการครบวงจร

เราให้คำปรึกษาทุกขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มจดทะเบียนนิติบุคคล พร้อมคำแนะนำในการเริ่มต้นธุรกิจ และการวางโครงสร้างธุรกิจอย่างถูกต้อง เพื่อให้คุณดำเนินกิจการได้อย่างมั่นคงในระยะยาว


2. รวดเร็ว

ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี เรามั่นใจในความเร็วและประสิทธิภาพ โดยใช้เวลาเพียง
ไม่เกิน 1 วันในการจดทะเบียนหลังจากตรวจสอบเอกสารครบถ้วน

3. ค่าบริการสมเหตุสมผล

ราคาเป็นมิตรกับธุรกิจ พร้อมบริการจดทะเบียนโดยการ Walk-in ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว


Pain Point ปัญหาของคุณ

การเลือกรูปแบบธุรกิจที่เหมาะสม

เราให้คำปรึกษาตั้งแต่รูปแบบของธุรกิจ ให้คุณได้รูปแบบที่เหมาะสมกับกิจการ สร้างแนวทางดำเนินธุรกิจให้ถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมให้คำปรึกษาประหยัดภาษีอย่างถูกวิธี


เพิ่งจดทะเบียนบริษัทไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร
การวางแผนธุรกิจที่ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดทำบัญชี การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือการยื่นแบบภาษีต่างๆ การมีที่ปรึกษาที่เชี่ยวชาญจะช่วยให้คุณเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างมั่นคง

 
ขั้นตอนในการดำเนินการยุ่งยาก
การจดทะเบียนบริษัทอาจมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก และต้องใช้เอกสารหลายประเภท ทำให้ผู้ประกอบการที่ไม่มีประสบการณ์ เกิดความสับสนเกี่ยวกับเอกสาร แต่ที่ นรินทร์ทอง เรามีผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยให้คำปรึกษา ดำเนินการให้อย่างมืออาชีพ


ขั้นตอนจดทะเบียนบริษัท (Walk in)

การให้บริการ จดทะเบียนบริษัท กับ Narinthong มีขั้นตอนที่ง่ายและสะดวก ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 จองชื่อนิติบุคล
ทางสำนักงานบัญชีจะทำการจองชื่อนิติบุคคล ที่ต้องการใช้ในการจดทะเบียน อย่างน้อย 3 ชื่อ (ทั้งภาษาไทย-อังกฤษ)

ขั้นตอนที่ 2 รวบรวมเอกสาร
ทางสำนักงานบัญชีจะขอสำเนาบัตรประชาชนของผู้ถือหุ้น และกรรมการผู้มีอำนาจ ไม่น้อยกว่า 2 คนขึ้นไป รวมถึงรายละเอียด และสำเนาของผู้ขอจดทะเบียน

ขั้นตอนที่ 3 จัดทำเอกสาร
สำนักงานบัญชีจะจัดเตรียมเอกสาร ที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนให้ลูกค้าทำการตรวจสอบ และ รับรองข้อมูล

ขั้นตอนที่ 4 กำหนดผู้มีอำนาจ
ทางบริษัทจะจัดทำหนังสือ บริคณห์สนธิ เพื่อกำหนดกรรมการผู้มีอำนาจ ในบริษัท  และทำการประชุมจัดตั้ง

ขั้นตอนที่ 5 พร้อมยื่นแบบ
ทางบริษัทจะทำการเดินทางเพื่อนำส่งเอกสารจัดตั้งบริษัท กับ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า


ทางสำนักงานบัญชีรวบรวมเอกสาร สำหรับดำเนินการจดทะเบียนบริษัทสำหรับฝั่งลูกค้า

  • สำเนาบัตรประจำตัว / หนังสือเดินทาง (Passport) ของผู้เริ่มก่อการทุกคน
  • สำเนาบัตรประจำตัวของกรรมการทุกคน
  • สำเนาหลักฐานเป็นผู้รับรองลายมือชื่อ
  • สำเนาทะเบียนบ้าน / เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์คอนโด / เอกสารสัญญาเช่าที่ตั้งใหม่ ของสำนักงานใหญ่ และสาขา "พร้อมแผนที่และสถานที่สำคัญใกล้เคียง"
  • หนังสือรับรองเงินลงทุน ผู้ถือสัญชาติไทย (กรณีมีบุคคลต่างชาติเป็นผู้ถือหุ้น)
  • สำเนาหลักฐานการชำระค่าหุ้นที่บริษัทออกให้แก่ผู้ถือหุ้น
  • ตรายางบริษัท (ถ้ามี)
  • หลักฐานให้ความเห็นชอบในการจัดตั้งบริษัท เพื่อประกอบธุรกิจจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี)


ราคาค่าบริการรับทำบัญชี



จดทะเบียนบริษัทแบบ Walk-in

฿ 5,000 บาท

- ระยะเวลาในการอนุมัติ
หากเอกสาที่ใช้ดำเนินการถูกต้องเรียบร้อยสามารถยื่น จัดการให้เสร็จภายใน 1 วัน

- ในกรณีที่มีข้อผิดพลาดสามารถแก้ไขได้ทันที
ในกรณีที่มีข้อผิดพลาด  สามารถแก้ไขได้ภายในวัน ทำให้การจดทะเบียนแบบ Walk In สามารถลดความล่าช้า ในการดำเนินการ

ข้อจำกัด คือ

- มีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
การดำเนินการแต่ละครั้งจะเกิดค่าใช้จ่าย หากดำเนินการผิดพลาดก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

- ต้องเดินทางตามเวลาเปิด-ปิด
ต้องยื่นเอกสารในเวลาทำการของสำนักงาน ทำให้ไม่สะดวกเท่าในกรณีของการยื่นออนไลน์


จดบริษัทแบบออนไลน์

฿ 3,500

  • ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
    ไม่ต้องเดินทางไปสำนักงาน สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา
  • ตรวจสอบสถานะผ่านระบบออนไลน์
    สามารถติดตามสถานะของการจดทะเบียนผ่านระบบออนไลน์

ข้อจำกัด คือ

- ระยะเวลาในการอนุมัติ
ระยะเวลาขึ้นอยู่กับนายทะเบียน อาจมากถึง 3-7 วันทำการ หากดำเนินการแล้วเอกสารไม่เรียบร้อย ก็อาจทำให้เพิ่มระยะเวลาในการดำเนินการ

- ปัญหาทางเทคนิค
หากเกิดปัญหาทางเทคนิค เช่น ระบบล่ม อาจทำให้การดำเนินการล่าช้า


บริการออกแบบโลโก้ โดยกราฟฟิกมืออาชีพ

บริการออกแบบโลโก้ของเรา มุ่งเน้นสร้างสรรค์เอกลักษณ์ที่สะท้อนแบรนด์ของคุณอย่างชัดเจน
ด้วยทีมงานมืออาชีพที่เชี่ยวชาญในการใช้สี รูปทรง และสัญลักษณ์ที่เหมาะสม
เราพร้อมส่งมอบโลโก้ที่โดดเด่นและสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Tel: 081-627-6872
LINE: Narinthong


คำถามที่พบบ่อย

ทุกอย่างที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการจดทะเบียนบริษัท

Q: ทำไมควรจดบริษัทกับ Narinthong?

A: เรามีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในการจดทะเบียนบริษัท พร้อมให้คำปรึกษาคุณทุกขั้นตอน เพื่อให้การจดทะเบียนของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและถูกต้องตามกฎหมาย


Q: บริการจดทะเบียนบริษัทกับ Narinthong ครอบคลุมอะไรบ้าง?

A: เราให้บริการจดทะเบียนบริษัทครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษาเบื้องต้น การติดตามผล และการให้คำปรึกษาหลังการจดทะเบียน


Q: ค่าใช้จ่ายการจดทะเบียนบริษัทกับ Narinthong เป็นอย่างไร?

A: เรามีแพ็คเกจบริการที่หลากหลายและยืดหยุ่นให้เลือกตามความต้องการของธุรกิจคุณ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่เว็บไซต์ของเรา


Q: ใช้ระยะเวลากี่วันในการจดทะเบียนที่ Narinthong?

A: หากเอกสารถูกต้องเรียบร้อยสำหรับการจดทะเบียนบริษัท แบบ Walk in สามารถดำเนินการได้ภายใน 1-3 วันทำการ
#12


การทำธุรกิจไม่ว่าในรูปแบบองค์กรหรือบริษัท ต่างก็ต้องมีการจัดทำบัญชี เพื่อจัดทำงบการเงิน และยื่นภาษีให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่คำถามสำคัญคือ ควร จ้างสำนักงานบัญชี หรือ จ้างพนักงานบัญชีประจำ? แต่ละรูปแบบมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันอย่างไร? การจ้างพนักงานบัญชี และ การจ้างสำนักงานบัญชีทั้ง 2 รูปแบบนี้ มีความแตกต่างกันยังไง นรินทร์ทอง หาคำตอบมาให้คุณแล้วในบทความนี้


ทำความเข้าใจการ จ้างสํานักงานบัญชี กับ จ้างพนักงาน แบบไหนเหมาะกับธุรกิจ อ่านเพิ่มเติมคลิก


ควร จ้างสำนักงานบัญชี เมื่อไร

1. ขนาดของกิจการ
เพราะขนาดกิจการของผู้ประกอบการ สามารถเป็นตัวชี้วัดได้ว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังสำหรับการจ้างทำบัญชี โดยแบ่งกิจการออกเป็น 2 ขนาด ได้แก่
  • กิจการขนาดเล็ก - มีเจ้าของเพียงคนเดียว เป็นธุรกิจค้าขายที่ไม่ซับซ้อน และมีบิลซื้อขาย เอกสารทางบัญชีไม่มาก อย่างเช่น การขายของออนไลน์
  • กิจการขนาดกลางขึ้นไป -  หากเป็นธุรกิจขนาดกลาง ที่มีรายการบัญชีจำนวนมาก เมื่อเจ้าของธุรกิจได้ประเมินแล้วว่า การจัดทำบัญชี สามารถช่วยลดหย่อนภาษีและประหยัดค่าใช้จ่ายทางภาษี และ เพิ่มผลกำไรให้กับบริษัท ในกรณีนี้ควรจ้างสำนักงานบัญชี
2. ค่าใช้จ่ายในการจ้างคนทำบัญชี
เรื่อง "ค่าใช้จ่าย" เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบ ที่ผู้ประกอบการมักจะเป็นกังวล  เพราะบางคนอาจจะมีความไม่พร้อม ในเรื่องของเงินทุนการจ้างทำบัญชี ยกตัวอย่างเช่น
  • กิจการเปิดใหม่ - กิจการขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ที่ยังไม่ได้มีการจดทะเบียนนิติบุคคล หากทุนยังไม่เพียงพอต่อการดำเนินการ ในเรื่องการจ้างทำบัญชี มีรายได้เข้ามาไม่มาก
  • กิจการที่มีการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล - ตามหลักแล้วควรจ้างทำบัญชี แต่ถ้าหากยังไม่พร้อมเรื่องค่าใช้จ่าย อาจจ้างในกรณีที่ต้องการปรึกษา
  • กิจการที่มีความพร้อมในเรื่องเงินทุน - ผู้ประกอบการควร จ้างสำนักงานบัญชี ให้จัดการเรื่องบัญชีและภาษีทั้งหมด ในอนาคตเมื่อธุรกิจมีการขยายขนาดองค์กร

จ้างสํานักงานบัญชี กับ จ้างพนักงาน แบบไหนเหมาะกว่ากัน
การจ้างพนักงานบัญชี หรือ จ้างสำนักงานบัญชี เป็นทางเลือกหนึ่งของผู้ประกอบการที่ต้องการคนมาช่วยดูแล เรื่องบัญชีและภาษีให้กับธุรกิจ ทาง นรินทร์ทอง เราจึงได้จำแนกข้อดี - ข้อเสีย ของการจ้างทำบัญชีรูปแบบต่างๆ มาให้ดูกัน

การจ้างพนักงานบัญชีประจำ


ข้อดี
ข้อดีของการจ้างพนักงานบัญชีประจำ คือ
  • มีความสะดวกและรวดเร็ว - การจ้างพนักงานบัญชีประจำในองค์กร ทำให้สามารถตอบสนองงานต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
  • ควบคุมงานได้อย่างใกล้ชิด - สามารถควบคุมงานได้อย่างใกล้ชิด หรือเรียกดูงานได้ตลอดเวลา
  • สื่อสารกับพนักงานได้อย่างสะดวก รวดเร็ว - สามารถมอบหมายงานได้ทันที หรือหากต้องการแก้ไขในส่วนไหนก็สามารถแจ้งได้ทุกเมื่อ
  • รักษาข้อมูลทางบัญชีที่เป็นความลับของบริษัทได้ - แต่ละบริษัทจะมีข้อมูลทางบัญชีที่เป็นความลับ
ข้อเสีย
  • ประสบการณ์ในการทำงาน - หากพนักงานบัญชีที่คุณจ้างมา ไม่มีความชำนาญด้านบัญชีและภาษีมากพอ คุณอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากค่าจ้าง
  • เพิ่มต้นทุนให้กับธุรกิจ - มีต้นทุนสูง เจ้าของธุรกิจต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายประจำเดือน
  • ลดความเสี่ยงจากความผิดพลาด - ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับ รายรับ, รายจ่าย, งบกำไรขาดทุน และอื่นๆ
  • มีมาตรฐานการทำงานและการตรวจสอบ - ทางสำนักงานบัญชีมีช่องทางการติดต่อชัดเจนสามารถให้คำปรึกษาได้
  • ได้ที่ปรึกษาทางด้านบัญชี การเงิน และภาษี - หากผู้ประกอบการอยากสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลด้านบัญชี การเงิน และภาษี

อ่านข้อดี-ข้อเสียการจ้างพนักงานประจำ กับ สำนักงานบัญชี เพิ่มเติมคลิก


สำนักงานแบบไหนที่ควรจ้าง


  • การให้บริการ
สำนักงานบัญชีที่ดีจะสามารถให้คำปรึกษา แนะนำการจัดการเอกสาร และระบบบัญชีได้ มีการให้บริการหลากหลายรูปแบบ
  • การติดต่อประสานงาน
สำนักงานบัญชีที่ดีต้องมีช่องทางที่สามารถให้ลูกค้า สามารถสอบถามปัญหาต่างๆ ได้ และมีการตอบกลับอย่างรวดเร็ว
  • มีค่าบริการกำหนดชัดเจน
มีการเขียนรายละเอียดค่าใช้จ่ายในแต่ละรายการอย่างชัดเจน
  • ราคาสมเหตุสมผล
ราคาที่เหมาะสม สำหรับธุรกิจขนาดกลาง ราคาควรที่จะไม่ต่างจากการจ้างพนักงานบัญชี 1 คน หรือแตกต่างกันไม่มาก
  • ความซื่อสัตย์
สำนักงานบัญชีที่เลือกใช้บริการจะต้องสามารถตรวจสอบ ค่าภาษีหรือประกันสังคมแบบเป็นเช็กหรือเงินโอนได้
  • ประสบการณ์
ควรจ้างสำนักงานบัญชีที่มีประสบการณ์ตรงกับธุรกิจที่ทำ สามารถให้ข้อมูลได้อย่างตรงจุด
  • วิธีการทำงานของสำนักงานบัญชี
เมื่อคุณรู้วิธีการทำงานของสำนักงานบัญชี จะทำให้คุณรู้ถึงกระบวนการทำงานภายในว่า ถูกตรงตามที่ต้องการหรือไม่ หรือถ้าเป็นไปได้อาจขอดูงานว่าเป็นอย่างไร
อยากจ้างสำนักงานบัญชีดีๆ เหมาะกับธุรกิจ คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่


สรุปข้อดีของการ จ้างสำนักงานบัญชี ที่เหมาะสมกับธุรกิจ

โดยสรุปแล้วการ จ้างสำนักงานบัญชี ที่มีน่าเชื่อถือ และเหมาะสมกับธุรกิจ ให้เข้ามาดูแลด้านบัญชีและภาษีของธุรกิจโดยเฉพาะ จะช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ประกอบการ นอกจากนี้ยังเปรียบเสมือนกับว่าบริษัทมีที่ปรึกษาส่วนตัว เกี่ยวกับเรื่องของหน้าที่ต่างๆ ที่บริษัทจะต้องทำเพื่อความถูกต้อง เช่น เรื่องการทำภาษีหัก ณ ที่จ่าย, การออกใบกำกับภาษีต่างๆ ซึ่งสำนักงานบัญชีจะเข้ามาเป็นผู้ช่วยหรือเป็นที่ปรึกษาในส่วนนี้ได้
ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังมองหาสำนักงานบัญชี ที่สามารถให้คำปรึกษาในเรื่องของบัญชีและภาษี ให้กับธุรกิจของคุณได้อย่างมืออาชีพ ขอแนะนำ บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด ให้บริการ รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น

  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339

#13


"การทำบัญชี" มีความสำคัญต่อธุรกิจอย่างมาก แต่ก็มีความซับซ้อนไม่น้อย ดังนั้นการจัดทำบัญชี จึงเป็นเรื่องที่ต้องทำโดยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย หลายๆ คนอาจจะเกิดคำถามว่า จ้างสำนักงาน รับทําบัญชีราคา เท่าไหร่? บทความนี้ นรินทร์ทอง จึงอยากมาแนะนำบริการด้านต่างๆ รวมถึงบอกวิธี่การเตรียมตัวก่อนจ้างสำนักงานบัญชี


ทำความรู้จัก นรินทร์ทอง สำนักงานรับทําบัญชีและยื่นภาษีให้มากขึ้น คลิกอ่านที่นี่


ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับราคา

ก่อนอื่นเรามาดูกันว่ามีปัจจัยใดบ้าง ที่มีผลต่อการคิดค่าบริการทำบัญชีของสำนักงานบัญชี
สโคปในการทำงาน
อย่างแรกต้องดูว่า ทางบริษัทจ้างสำนักงานบัญชีเข้ามาดูแลในส่วนไหนบ้าง โดยทั่วไปแล้วหน้าที่หลักๆ ของสำนักงานบัญชี คือ
  • ปิดบัญชีทั่วไป ประกอบไปด้วย
  • การยื่นภาษี และ ประกันสังคมรายเดือน
  • การยื่นภาษีประจำปี
  • การยื่นงบการเงิน
มาตรฐานในการบัญชีของบริษัท
มาตรฐานการบัญชีของบริษัทโดยทั่วไป ประกอบไปด้วย การรวบรวมหลักฐานเอกสารที่เกี่ยวข้องทางการเงิน, การจดบันทึกหลักฐานทางการเงิน, การจำแนกประเภทหรือแยกบัญชีให้เป็นหมวดหมู่, การสรุปรวมข้อมูล และการจัดทำงบการเงิน
จำนวนเอกสาร ความซับซ้อนในตัวงาน
งานบัญชีจะมากหรือน้อยจะขึ้นอยู่กับจำนวนเอกสาร หรือธุรกิจมีความซับซ้อนมากน้อยขนาดไหน เช่น เดือนนี้มีเอกสารจำนวนกี่ใบ หรือมีรายรับรายจ่ายเท่าไหร่ภายในเดือนนี้
การจัดส่งเอกสาร
ทางสำนักงานบัญชีจะต้องนำส่งเอกสารรายการต่างๆ ในแต่ละเดือนให้กับทางบริษัท ได้แก่ เอกสารรายได้ - ยอดขาย, เอกสารรายจ่าย, Statement และ รายงานการจ่ายเงินเดือน

เรียนรู้ปัจจัยที่เกี่ยวกับราคา ก่อนจ้างสำนักงานบัญชี เพิ่มเติมคลิก


บริษัทนรินทร์ทอง รับทําบัญชีราคา เท่าไหร่


ผู้ประกอบการท่านใด ที่สนใจใช้บริการกับ  บริษัทนรินทร์ทอง รับทำบัญชีและกฎหมาย[/url แต่ไม่รู้ว่าราคาเท่าไหร่ หัวข้อนี้เราจะมาแนะนำบริการต่างๆ ของทางนรินทร์ทอง
  • บริการ รับทำบัญชี รายเดือน ตามมาตรฐาน - รับเอกสารจากลูกค้า และ บันทึกบัญชี ส่งภาษีอากร ดูแลประกันสังคม ปิดงบการเงิน ไม่รวมการออกบิล ใบเสร็จ ใบแจ้งหนี้ เริ่มต้น 3,500 บาท
  • รับปรึกษาด้านบัญชี และภาษี - ให้คำปรึกษาวางแผนการทำบัญชีช่วยประหยัดภาษี อย่างถูกต้องตามกฎหมายเริ่มต้น 10,000 บาท
  • บริการบัญชีออนไลน์ - ลูกค้าจัดส่งเอกสารผ่านโปรแกรมบัญชีออนไลน์ ไกลแค่ก็ทำบัญชีกับเราได้ เราพร้อมให้บริการ

สนใจใช้บริการกับ บริษัทนรินทร์ทอง คลิกอ่านบทความเต็มๆ ที่นี่



เลือกสำนักงาน รับทำบัญชีราคา คุ้มค่า บริการโดยผู้เชี่ยวชาญ ต้องที่ นรินทร์ทอง
1. บุคคลธรรมดา - รายได้หลักมาจาก เงินเดือน เบี้ยเลี้ยง โบนัส หรือ การรับจ้างทำงาน ซึ่งเป็นเงินได้ประเภท 40(1) และ 40(2) เงินได้ในกลุ่มนี้สามารถหักแบบเหมาได้ไม่เกิน 50% แต่รวมกันต้องไม่เกิน 100,000 บาท ทำให้เราไม่สามารถนำค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ มาใช้ได้อย่างเต็มที่ และ ยังมีอัตราภาษีในรูปแบบอัตราก้าวหน้าที่เพดานสูงถึง 35%
2. นิติบุคคล - ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจขายออนไลน์ ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจโรงพยาบาล รายได้ที่เกิดขึ้นจะต้องหักค่าใช้จ่ายได้แบบตามจริงเท่านั้น ซึ่งในรูปแบบบริษัท (นิติบุคคล) จะสามารถใช้ประโยชน์จากต้นทุนได้มากกว่าบุคคลธรรมดา ที่มีข้อจำกัดในเรื่องของประเภทเงินได้ นอกจากนี้ยังมีเพดานภาษีเพียงแค่ 15-20% เท่านั้น
อ่านรายละเอียด จดทะเบียนบริษัทประหยัุดภาษีจริงไหม? เพิ่มเติม คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่

โครงสร้างบริษัท



นอกจากจะมองหาสำนักงานบัญชีที่มีบริการ รับทำบัญชีราคา คุ้มค่าแล้ว ต้องเลือกสำนักงานบัญชีที่สามารถ ให้คำปรึกษาในเรื่องบัญชีและภาษีได้, ติดต่อง่าย และ มีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมายกำหนด ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่บ่งบอกว่าสำนักงานบัญชี ที่คุณเลือกใช้บริการนั้นได้มาตรฐาน ดังนั้นหากใครที่กำลังมองหาสำนักงานรับทำบัญชีราคาคุ้มค่า และให้บริการ บริการโดยผู้เชี่ยวชาญ ขอแนะนำ บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด ให้บริการ รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น

  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339
#14


เริ่มต้นทำธุรกิจควรจดทะเบียนบริษัทเลยดีไหม? บทความนี้ทาง นรินทร์ทอง นำข้อควรรู้ก่อน จดทะเบียนบริษัท มาฝากทุกคนกัน! เพราะข้อดีของการรู้ข้อมูลก่อน จะทำให้คุณสามารถเตรียมวางแผนด้านต่างๆ ได้อย่างราบรื่น


เตรียมพร้อมก่อนเริ่มต้น จดทะเบียนบริษัท คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่


นิติบุคคล คืออะไร

นิติบุคคล หมายถึง บุคคลที่กฎหมายสมมติขึ้นมาให้มีสภาพเหมือนบุคคล โดยมีชื่อบริษัท เลขประจำตัวผู้เสียภาษี (เลขประจำตัวประชาชน) ดังนั้นการจดทะเบียนบริษัทนิติบุคคลขึ้นมา เปรียบเสมือนการสร้างตัวแทนทางกฏหมาย ของหุ้นส่วนกิจการหลายๆ คนรวมกัน

จดบริษัท ประหยัดภาษีจริงไหม ?

เชื่อว่าหลายคนในที่นี้คงอย่ารู้ว่า จดบริษัทช่วยประหยัดภาษีจริงไหม ? ก่อนหน้านี้ทาง นรินทร์ทอง ได้เขียนถึงเนื้อหานี้กันไปแล้ว ดังนั้นหัวข้อนี้เราจึงอยากมาเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายระหว่าง บุคคลธรรมดา กับ นิติบุคคล ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
1. บุคคลธรรมดา - รายได้หลักมาจาก เงินเดือน เบี้ยเลี้ยง โบนัส หรือ การรับจ้างทำงาน ซึ่งเป็นเงินได้ประเภท 40(1) และ 40(2) เงินได้ในกลุ่มนี้สามารถหักแบบเหมาได้ไม่เกิน 50% แต่รวมกันต้องไม่เกิน 100,000 บาท ทำให้เราไม่สามารถนำค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ มาใช้ได้อย่างเต็มที่ และ ยังมีอัตราภาษีในรูปแบบอัตราก้าวหน้าที่เพดานสูงถึง 35%
2. นิติบุคคล - ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจขายออนไลน์ ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจโรงพยาบาล รายได้ที่เกิดขึ้นจะต้องหักค่าใช้จ่ายได้แบบตามจริงเท่านั้น ซึ่งในรูปแบบบริษัท (นิติบุคคล) จะสามารถใช้ประโยชน์จากต้นทุนได้มากกว่าบุคคลธรรมดา ที่มีข้อจำกัดในเรื่องของประเภทเงินได้ นอกจากนี้ยังมีเพดานภาษีเพียงแค่ 15-20% เท่านั้น
อ่านรายละเอียด จดทะเบียนบริษัทประหยัุดภาษีจริงไหม? เพิ่มเติม คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่

โครงสร้างบริษัท
โครงสร้างบริษัท หลักๆ ประกอบไปด้วย กรรมการ และ ผู้ถือหุ้น ในส่วนของ ผู้ถือหุ้น หมายถึง เจ้าของธุรกิจ ซึ่งทางกฎหมายได้กำหนดเอาไว้ว่า ก่อนจดทะเบียนบริษัทจะต้องมีผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 2 คน โดยสัดส่วนอำนาจในบริษัทจะขึ้นอยู่กับว่า เราถือหุ้นมากหรือน้อยเพียงใด ส่วนกรรมการ หมายถึง คนที่ได้รับการแต่งตั้งจากผู้ถือหุ้น มาเป็นคนบริหารงานในธุรกิจ
เข้าใจเรื่องทุน จดทะเบียนบริษัท
ทุนจดทะเบียนบริษัท คือ เงินที่ผู้เริ่มก่อการหรือผู้ถือหุ้นใช้ในการเริ่มต้นทำธุรกิจ ซึ่งกำหนดไว้ว่าจะต้องมีราคาไม่ต่ำกว่า 5 บาทต่อหุ้น เมื่อกฎหมายกำหนดให้การจดทะเบียนบริษัทต้องมีผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป
รู้รายละเอียดเกี่ยวกับการ จดทะเบียนบริษัท มากขึ้น คลิกอ่านบทความเพิ่มเติมที่นี่

ค่าใช้จ่ายแฝง
เช่น การจัดทำเอกสารบัญชีและภาษี เอกสารรายได้ เอกสารค่าใช้จ่าย ฯลฯ ซึ่งถ้าหากไม่มีการเตรียมตัวให้ดี อาจทำให้มีค่าใช้จ่ายแฝงตามมาภายหลังจำนวนมาก


สรุปเรื่องควรรู้ก่อน จดทะเบียนบริษัท กับเรานรินทร์ทอง
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้จะเห็นว่า การจดทะเบียนบริษัท เพื่อเปลี่ยนจากบุคคลธรรมดา มาอยู่ในรูปแบบบริษัทจำกัด (นิติบุคคล) มีข้อดีในหลายๆ ด้าน หากคุณพบว่า บริษัทของคุณเริ่มมีต้นทุน ค่าใช้จ่าย และมีแนวทางการสร้างรายได้ที่ชัดเจนมากขึ้น พอที่จะเริ่มวางแผนโครงสร้างได้ นั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณสามารถเริ่มต้น จดทะเบียนบริษัท ได้แล้ว แต่ก็อย่าลืมศึกษาข้อมูลให้ละเอียด เพราะการวางแผนก่อนจดทะเบียนบริษัทถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
ซึ่งการเลือกสำนักงานบัญชีที่ดี ถือเป็นอีกส่วนสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคง ขอแนะนำ บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด สำนักงาน รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น

  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339
#15


อยากวางแผนเปิดธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่ยังคงเกิดข้อสงสัยว่า การ จดบริษัท ดีจริงไหม ช่วยประหยัดภาษีได้หรือไม่? วันนี้ นรินทร์ทอง ได้เตรียมข้อมูลในด้านต่างๆ เกี่ยวกับการจดทะเบียนบริษัทมาไว้ให้คุณแล้วในบทความนี้!

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ การจดบริษัทและภาษีให้มากขึ้น อ่านเพิ่มเติมที่นี่


จดบริษัทประหยัดภาษีจริงไหมเรียกว่าอะไร?

หัวข้อนี้ นรินทร์ทอง เราได้นำข้อมูลของอัตราภาษีบุคคลธรรมดา มาเปรียบเทียบกับนิติบุคคล เพื่อให้ทุกคนเข้าใจถึงอัตราการเสียภาษีของทั้ง 2 รูปแบบ

เปรียบเทียบอัตราภาษีบุคคลธรรมดา และ นิติบุคคล SMEs
การเปรียบเทียบอัตราภาษีบุคคลธรรมดา และ นิติบุคคล จะมีวิธีการคำนวณคือ เงินได้สุทธิ = เงินได้ - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน โดยภาษีสำหรับบุคคลธรรมดานั้น จะคิดบนอัตราก้าวหน้าตั้งแต่ 0-35% แต่สำหรับบริษัทจะเสียภาษีที่อัตราคงที่ ถ้าเป็นกิจการขนาดเล็ก SMEs จะไม่เสียภาษีสำหรับกำไร 300,000 บาทแรก 15% สำหรับฐานภาษีระหว่างช่วง 300,001-3,000,000 บาท และ 20% หลังจากนั้น และบริษัททั่วไปที่ไม่ใช่กิจการ SMEs จะเสียภาษีที่อัตราคงที่ 20% ทุกช่วงกำไรสุทธิ

ในกรณีที่ทำธุรกิจในรูปแบบบุคคลธรรมดา ถ้าหากเงินได้สุทธิมีจำนวนน้อย การทำธุรกิจในฐานบุคคลธรรมดาจะมีอัตราภาษีที่น้อยกว่า แต่ถ้าหากธุรกิจมีรายได้มาก และคาดการณ์ว่าจะเติบโตอีกในอนาคต การจดทะเบียนบริษัทจะช่วยให้เสียภาษีในอัตราที่ถูกกว่า ซึ่งสามารถนำเปรียบเทียบในรูปแบบตารางได้ดังนี้
- อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
1. เงินได้สุทธิ 1-150,000 บาท รายได้สุทธิ 0%
จะได้รับการยกเว้นภาษี
2. เงินได้สุทธิ 150,001-300,000 บาท รายได้สุทธิ 5%
จะต้องชำระอัตราภาษี 5%
3. เงินได้สุทธิ 300,001-500,000 บาท รายได้สุทธิ 10%
จะต้องชำระอัตราภาษี 10%
4. เงินได้สุทธิ 500,001 – 750,000 บาท รายได้สุทธิ 15%
จะต้องชำระอัตราภาษี 15%
5. เงินได้สุทธิ 750,001 – 1,000,000 บาท รายได้สุทธิ 20%
จะต้องชำระอัตราภาษี 20%
6. เงินได้สุทธิ 1,000,001 – 2,000,000 บาท รายได้สุทธิ 25%
จะต้องชำระอัตราภาษี 25%
7. เงินได้สุทธิ 2,000,001 – 3,000,000 บาท รายได้สุทธิ 30%
จะต้องชำระอัตราภาษี 30%
8. เงินได้สุทธิ 3,000,001 – 5,000,000 บาท รายได้สุทธิ 30%
จะต้องชำระอัตราภาษี 30%
9. เงินได้สุทธิมากกว่า 5,000,001 บาทขึ้นไป รายได้สุทธิ 35%
จะต้องชำระอัตราภาษี 35%

- อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล SMEs

1. เงินได้สุทธิ 1-150,000 บาท กำไรสุทธิ 0%
จะได้รับการยกเว้นภาษี
2. เงินได้สุทธิ 150,001-300,000 บาท กำไรสุทธิ 0%
จะได้รับการยกเว้นภาษี
3. เงินได้สุทธิ 300,001-500,000 บาท กำไรสุทธิ 15%
จะต้องชำระอัตราภาษี 15%
4. เงินได้สุทธิ 500,001 – 750,000 บาท กำไรสุทธิ 15%
จะต้องชำระอัตราภาษี 15%
5. เงินได้สุทธิ 750,001 – 1,000,000 บาท กำไรสุทธิ 15%
จะต้องชำระอัตราภาษี 15%
6. เงินได้สุทธิ 1,000,001 – 2,000,000 บาท กำไรสุทธิ 15%
จะต้องชำระอัตราภาษี 15%
7. เงินได้สุทธิ 2,000,001 – 5,000,000 บาท กำไรสุทธิ 15%
จะต้องชำระอัตราภาษี 15%
8. เงินได้สุทธิ 3,000,001 – 5,000,000 บาท กำไรสุทธิ 20%
จะต้องชำระอัตราภาษี 20%
9. เงินได้สุทธิมากกว่า 5,000,001 บาทขึ้นไป กำไรสุทธิ 20%
จะต้องชำระอัตราภาษี 20%

- อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล
1. เงินได้สุทธิ 1-150,000 บาท กำไรสุทธิ 20%
จะต้องชำระอัตราภาษี 20%
2. เงินได้สุทธิ 1-150,000 บาท กำไรสุทธิ 20%
จะต้องชำระอัตราภาษี 20%
3. เงินได้สุทธิ 150,001-300,000 บาท กำไรสุทธิ 20%
จะต้องชำระอัตราภาษี 20%
4. เงินได้สุทธิ 300,001-500,000 บาท กำไรสุทธิ 20%
จะต้องชำระอัตราภาษี 20%
5. เงินได้สุทธิ 500,001 – 750,000 บาท กำไรสุทธิ 20%
จะต้องชำระอัตราภาษี 20%
6. เงินได้สุทธิ 750,001 – 1,000,000 บาท กำไรสุทธิ 20%
จะต้องชำระอัตราภาษี 20%
7. เงินได้สุทธิ 1,000,001 – 2,000,000 บาท กำไรสุทธิ 20%
จะต้องชำระอัตราภาษี 20%
8. เงินได้สุทธิ 2,000,001 – 5,000,000 บาท กำไรสุทธิ 20%
จะต้องชำระอัตราภาษี 20%
9. เงินได้สุทธิ 3,000,001 – 5,000,000 บาท กำไรสุทธิ 20%
จะต้องชำระอัตราภาษี 20%
10. เงินได้สุทธิมากกว่า 5,000,001 บาทขึ้นไป กำไรสุทธิ 20%
จะต้องชำระอัตราภาษี 20%
- สำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่มีรายได้ไม่มาก เหมาะสมกับธุรกิจในรูปแบบบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล SMEs
- ธุรกิจที่มีรายได้มากและไม่เข้าเงื่อนไขเป็น SMEs เหมาะที่จะประกอบธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคลมากกว่า การประกอบกิจการในฐานะบุคคลธรรมดา

ค่าใช้จ่ายแฝงในการ จดบริษัท

การประกอบธุรกิจในรูปแบบบริษัท ส่วนใหญ่หวังใช้ประโยชน์จากอัตราภาษีที่ถูกกว่าแบบบุคคลธรรมดา แต่ต้องแลกมาด้วยการจัดทำเอกสารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การทำบัญชี การจัดส่งภาษี การจัดส่งงบการเงิน การจัดทำเอกสารรายได้ เอกสารค่าใช้จ่าย และอื่นๆ


ไม่อยากเสียเวลาจัดทำเอกสาร จ้างสำนักงานบัญชี นรินทร์ทอง คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่



ใครควรจดทะเบียนบริษัท ?

จากเนื้อหาในข้างต้นจะเห็นว่า บุคคลที่พร้อมจดทะเบียนบริษัท คือ ผู้ประกอบการที่ธุรกิจเริ่มมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งถ้าหากคุณดำเนินธุรกิจในฐานะบุคคลธรรมดา และต้องเสียอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสูงกว่า 20% หรือมีรายได้สุทธิ (รายได้หลังจากหักค่าใช้จ่าย) มากกว่า 750,000 บาทขึ้นไป นั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณควรจดทะเบียนบริษัททันที อีกปัจจัยที่เป็นตัวช่วยตัดสินใจว่า คุณควรจดทะเบียนบริษัทหรือไม่ คือ การนำเอาปัจจัยต่างๆ ได้แก่ รายได้ ค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนของกิจการ มาคำนวณภาษีเปรียบเทียบกัน ทั้งแบบบุคคลธรรมดา และแบบนิติบุคคล
สนใจ จด บริษัท สามารถ อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่



สรุป จดทะเบียนบริษัท ประหยัดภาษีจริงไหม
โดยสรุปแล้ว การจดทะเบียนบริษัทเป็นรูปแบบนิติบุคคล สามารถช่วยประหยัดภาษีได้มากกว่ารูปแบบบุคคลธรรมดาจริง และยังส่งผลดีต่อบริษัทในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภาษี การหักค่าใช้จ่ายที่สามารถหักได้ตามจริง และ ยังเพิ่มความน่าเชื่อถือของธุรกิจได้ หากผู้ประกอบการท่านใดที่อยากหาผู้ช่วยที่สามารถให้คำปรึกษา ในเรื่องของบัญชีและภาษีให้กับกิจการของคุณได้อย่างมืออาชีพ ขอแนะนำ บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด ให้บริการ รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น

  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339